แอลจี ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อการบรรลุเป้าหมาย FUTURE VISION 2030 เน้นการ ก้าวข้ามขีดจำกัด

กองบรรณาธิการ

นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของแอลจี อิเลคทรอนิคส์ (แอลจี) ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อการบรรลุเป้าหมาย FUTURE VISION 2030 ภายในงานแถลงข่าวที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

นายวิลเลียม โช ได้ระบุถึง 3 จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะพลิกโฉมธุรกิจและประสบการณ์ที่ลูกค้าแอลจีจะได้รับ ได้แก่ การใช้พลังงานไฟฟ้า การให้บริการ และการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งแอลจีมีความพยายามที่จะก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของความไม่แน่นอนของตลาดและซัพพลาย ด้วยการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์เป็นหลักและมีจิตวิญญาณแห่งผู้ชนะ

“ถ้าปี 2566 เป็นปีแห่งการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของแอลจี เราก็จะทำให้ปี 2567 เป็นปีที่เร่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริง โดยวิสัยทัศน์ ‘Future Vision 2030’ ถือเป็นคำมั่นสัญญาของเราที่มีต่อตลาด และลูกค้าของเรา และพวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้คำมั่นสัญญาของเราเป็นความจริง” นายวิลเลียมกล่าว

นอกจากนี้นายวิลเลียม โช ยังได้ประกาศในปีที่แล้วว่า “Future Vision 2030” จะเป็นเป้าหมายระยะยาวที่จะเปลี่ยนแอลจีเป็นบริษัท ‘Smart Life Solution Company’ ที่ช่วยเชื่อมต่อและขยายประสบการณ์ของลูกค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงพื้นที่ในบ้าน พื้นที่การค้า ยานพาหนะ และโลกเสมือนจริง

เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในอนาคตด้วยการลงทุน

นายวิลเลียม โช ยังได้เน้นข้อความสำคัญในเรื่องการ ‘ก้าวข้ามขีดจำกัด’  ทั้งยังเป็นปรัชญาพื้นฐานของนโยบายการบริหารในปี 2567 โดยได้กำหนดประเด็นสำคัญ 3 เรื่องสำหรับการเติบโตในอนาคต ได้แก่ โมเดลธุรกิจที่ไม่ใช้ฮาร์ดแวร์ การขยายธุรกิจแบบ B2B และการพัฒนาธุรกิจใหม่ โดยแอลจีจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ทโฟลิโอของบริษัทต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มต้นการเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโต ด้วยการขยายการลงทุนตามลำดับสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยในปีนี้ แอลจีจะเพิ่มการลงทุนเป็นเท่าตัว คิดเป็นงบประมาณกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการลงทุนด้านการวิจัยและส่วนสำคัญด้านอื่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน และการก้าวไปข้างหน้าขององค์กร

การเติบโตและผลกำไรที่สูงขึ้นของกลุ่มธุรกิจหลักของแอลจี ส่งผลให้ในปี 2567 จะได้เห็นการลงทุนที่สูงขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจ B2B ได้แก่ ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ HVAC เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบบิ้วท์อิน ป้ายดิจิทัล และยังรวมไปถึงส่วนธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์ม webOS เป็นต้น และลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ซึ่งแอลจีมีแผนจะลงทุนเป็นมูลค่าสูงกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2573 เพื่อเปลี่ยนแปลงพอร์ทโฟลิโอของบริษัทและการเติบโตอย่างมีคุณภาพขององค์กร

นอกจากนี้ ในช่วงต้นปี แอลจียังมองหาโอกาสการเติบโตอื่น ๆ ทั้งจากการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ การเป็นหุ้นส่วนในกิจการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการปรับใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการเติบโตจากภายใน นอกจากนี้ แอลจีจะยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่จะมาปฏิวัติวงการและสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าของเรา เช่น เทคโนโลยี AI หรือ Mixed Reality (MR)

นายวิลเลียม โช ได้กล่าวถึงการจัดตั้งบริษัทใหม่ คือ Overseas Sales and Marketing Company ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีค่าในการช่วยให้แอลจี “ก้าวข้ามขีดจำกัด” และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แอลจีประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยสามารถทำยอดขายคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 จากยอดขายทั้งหมด  บริษัทใหม่นี้ใช้กลยุทธ์แบบเฉพาะเจาะจงพิเศษที่คำนึงถึงความแตกต่างของตลาดในแต่ละภูมิภาค ซึ่งธุรกิจดังกล่าวยังได้เพิ่มศักยภาพให้กับผลประกอบการของธุรกิจทั่วโลก และยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ และการเติบโตให้กับบริษัทในเครือของแอลจีในต่างประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้แอลจียังจะเน้นการโปรโมทสินทรัพย์ที่ไม่สามารถจับต้องได้อย่างสิทธิบัตรเบื้องต้นของแอลจีในด้านเทคโนโลยีซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีการสื่อสาร สื่อ อุปกรณ์พกพา รวมไปถึง เครือข่าย IoT และในช่วงการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ยังมีการก่อตั้งธุรกิจใหม่ที่เผยแพร่องค์ความรู้ในการสร้างโรงงานอัจฉริยะอีกด้วย

แอลจียังมุ่งสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและมีรูปแบบการการทำงานประสานกันที่ดี เช่น LG NOVA จะเพิ่มทุนให้กับสตาร์ทอัพถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 เพื่อเพิ่มโอกาสให้บริษัทได้คิดค้นเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรมแห่งอนาคต และนำไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ

เมื่อไม่นานมานี้ แอลจียังได้สร้างธุรกิจด้านการชาร์จพลังงานให้รถพลังงานไฟฟ้า EV แบบครบวงจรที่มีระบบชาร์จและการควบคุมที่ล้ำหน้า การจับสัญญาณรีโมท และการให้บริการ รวมไปถึงการวิเคราะห์แบตเตอรี่รถยนต์ พื้นฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขาย โดยบริษัทฯ ได้สร้างโรงงานผลิตตัวชาร์จเจอร์ที่สหรัฐอเมริกา เมืองฟอร์ตเวิร์ท รัฐเทกซัส เพื่อเตรียมรุกตลาดอเมริกาเหนือ

ในด้านธุรกิจดิจิทัลเพื่อสุขภาพ แอลจียังได้ขยายบริการแพทย์ทางไกลโดยร่วมมือกับ Amwell และยังจะพัฒนาระบบเพื่อให้บริการในด้านการป้องกัน การวินิจฉัยโรค การดูแลหลังการรักษา และการฟื้นฟู  นอกจากนี้ เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจซึ่งแอลจีกำลังเตรียมทำอุปกรณ์ด้าน MR ขายในเชิงพาณิชย์ โดยในช่วงท้ายปี 2566 แอลจีได้ก่อตั้งธุรกิจ eXtended Reality ภายใต้เครือบริษัท HE ซึ่งร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในด้านเทคโนโลยีหลายราย เพื่อพัฒนาโซลูชันด้าน augmented reality (AR)  

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของแอลจี  ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตของแอลจียังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโปรแกรมวิจัยเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจ และการคิดค้นเทคโนโลยีหลักใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเน้นไปที่เทคโนโลยีใน 8 ด้านหลัก ได้แก่ ซอฟต์แวร์, ระบบบนชิปประมวลผล, ปัญญาประดิษฐ์, หุ่นยนต์, วัสดุและชิ้นส่วน, มาตรฐาน, การประมวลผลยุคใหม่และคลาวด์/ข้อมูล

มุ่งสู่ DX ด้วยการขับเคลื่อนจากข้อมูลและการลงทุนระบบ ERP ยุคใหม่

แอลจีจะมุ่งส่งมอบประสบการณ์ ‘ครั้งแรก’ ‘ที่ไม่เหมือนใคร’ และ ‘มีความแปลกใหม่’ เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ทุกคนด้วยเทคโนโลยี digital transformation (DX)

ทั้งนี้ แอลจีเดินหน้าลงทุนในธุรกิจไอทีเพื่อนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับทั้งองค์กร นอกจากนี้แอลจียังสร้าง N-ERP หรือระบบ Next-generation Enterprise Resource Planning เพื่อเชื่อมกระบวนการทางธุรกิจและกระบวนการทำงาน รวมถึงระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Intellytics Customer 360 ซึ่งเป็นโปรแกรมในการเก็บรวมรวบข้อมูลของลูกค้าที่รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแห่ง ซึ่งจะเข้ามาช่วยในเรื่องระบบการบริหารจัดการแบบบูรณาการ และจะถูกนำไปใช้ทั่วโลกในปีนี้

โครงการ DX ของแอลจียังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯในการพัฒนาไปมากกว่านวัตกรรมของประสบการณ์ของลูกค้า แต่รวมไปถึงการพัฒนาประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการขาย โดยในปีที่ผ่านมาแอลจีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตจากการนำเทคโนโลยี DX มาประยุกต์ใช้กับแต่ละห่วงโซ่คุณค่ารวมเป็นมูลค่ามากกว่า 240 ล้านเหรียญสหรัฐ 

#แอลจี #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share