บอร์ด NT ชี้ต้องเร่งสร้างรายได้ทดแทนเงินสัมปทาน พร้อมหาที่ปรึกษาพัฒนาสินทรัพย์ 2,400 ไร่ทั่วประเทศ

กองบรรณาธิการ

ดร.ณัฐพล ณัฐสมบูรณ์  ประธานกรรมการบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ  จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า งานเร่งด่วนที่ NT ต้องเร่งทำ ก่อนที่รายได้จากสัมปทานต่างๆ ของ NT จะหมดลง คือการหารายได้ทดแทนรายได้จากสัมปทานซึ่งจะหายไป 40,000 ล้านบาท ในปี 2568  จึงต้องเร่งหาตลาดใหม่มาทดแทน เริ่มด้วยการหารายได้จากคลื่นความถี่ที่ประมูลมาคือคลื่น 700 Mhz โดยมุ่งไปที่การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ รวมถึงการประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต หรือภาคการเกษตร

ส่วนคลื่น 26 Ghz โดยมุ่งไปที่โรงงานที่ต้องเครือข่ายสื่อสาร โดยเฉพาะโรงงานใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดย NT มีความร่วมมือนิคมอุตสาหกรรม ที่จะนำคลื่นความถี่มาใช้ในการควบคุมสั่งการในโรงงาน NT จะมองหาพันธมิตรที่เห็นไปทิศทางเดียวกันเพื่อต่อยอดเอาคลื่นความถี่ไปใช้ เพื่อต่อยอดรายได้ในอนาคต

“เราต้องเปลี่ยนความคิด มองไปในระยะยาว เปลี่ยนมุมมองและวิธีการหารายได้แบบเดิมๆ เราจะไปคิดอะไรแพงๆให้คุ้มทุนคงไม่ได้ แต่ต้องคิดว่าเราจะเอาสินทรัพย์อะไรออกไปให้บริการแบบที่ลูกค้าอยู่ได้ หน่วยงานภาครัฐใช้ได้ ทำให้เรามีรายได้โดยไม่ต้องชาร์จเขาแพงๆ ไม่อยากให้มองว่าองค์กรซื้อของอย่างเดียว ขายไม่เป็น ไม่เอาแล้ว จะต้องกลับกัน ขายของได้ก่อนค่อยลงทุน เราจะหาคนที่เป็น expert มาดูเรื่ององค์กร อยากให้เข้ามาดูในเรื่องแผนพัฒนาองค์กร เป็นคณะที่มาดูแลด้านองค์กรโดยเฉพาะ วันนี้เราทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว“ ดร.ณัฐพล กล่าว

นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจโมบายน์ NT มีการจัดบริการบันเดิลบริการต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้บริการโมบายน์มากขึ้น อาทิ บริการโมบายน์เชื่อมกับโทรศัพท์บ้าน หรือ บริการไวไฟเชื่อมกับโทรศัพท์บ้านและโมบายน์ ในราคาที่เหมาะสมเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและขยายฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น

“ปัจจุบัน NT มีรายได้หมายเลขของมือถือ ต่อเดือนที่ 70 บาทต่อเดือน ฉนั้นอาจจะเพิ่มบริการ มีราคามที่เหมาะสม

วันนี้คุณต้องทำธุรกิจเหมือนเอกชน ขายไวไฟ พ่วงเบอร์บ้านและมือถือ”ดร.ณัฐพล กล่าว

สำหรับแผนที่จะให้บริการ Could  ภาครัฐ สิ่งที่ NT จะทำคือการเป็น คนกลางในการกำหนดมาตรฐาน คอยมอนิเตอร์ให้การใช้งาน Could ใช้งานร่วมกันได้มีความปบอดภัย โดยมีการพัฒนา Could Platform Management (CPM)เพื่อต่อยอดให้เกิดบริการใหม่ให้กับประชาชน เปิดโอกาสให้เอกขนเข้ามาลงทุน รวมถึงการให้บริการ Private Could กับหน่วยงานรัฐที่มีความต้องการการรักษาปลอดภัยสูง

และในปีนี้กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลในการพัฒนา Cloud ภาครัฐประมาณ 600 ล้านบาท

ในส่วนของการดูแลระบบ National Single Platform (NSW) ซึ่งเป็นระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ (G2G,G2B และ B2B) สำหรับการเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศในภูมิภาคอื่นๆ นั้น NT จะเป็นผู้ให้บริการเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆเพื่อรองรับการให้บริการในจุดเดียวหรือ One stop service เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกการใช้บริการนำเข้าและส่งออก

NT พร้อมที่จะทำให้บริการในราคาที่เหมาะสม มีความมั่นใจและมีการรักษาความปลอดภัย

สำหรับธุรกิจดาวเทียม NT ตั้งใจจะเป็นผู้ให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐ โดยหารายได้จากการช่วยบริหารจัดการไม่ต้องเสียค่าสัมปทาน ส่วนวงโคจรที่ประมูลได้ NT จะมองหาพันธมิตรที่มี

ความ เชี่ยวชาญมาร่วมทำธุรกิจ

นอกจากนี้ในส่วนธุรกิจดิจิทัล  NT มีความตั้งใจปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัล และปรับตัวสู่ผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital provider) อยู่ระหว่างหาพันธมิตรในการดำเนินการเพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลที่มีศักยภาพและสร้างรายได้จากธุรกิจบริการดิจิทัลมากขึ้น

ในส่วนของการหารายได้จากสินทรัพย์ที่ NT มี โดยเฉพาะที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ที่มีจำนวนมากกว่า 2,400 ไร่ทั่วประเทศนั้น  NT จะหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยในการบริหารสินทรัพย์ให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน NT สร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มีอยู่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และปัจจุบันมีเงินสดสำรองอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ NT ยังมีแผนปรับองค์กร โดยจะมีการปรับลดจำนวน ตำแหน่งผู้บริหารลง เพื่อการทำงานที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้น จากเดิมมีประมาณ 11 ตำแหน่งเหลือ 8 ตำแหน่ง โอนคนไปอยู่ในจุดที่สร้างรายได้” ดร.ณัฐพล กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share