กองบรรณาธิการ
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากความสำเร็จในการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก BYD ATTO 3 สู่ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD Dolphin เพิ่มเติมให้เลือกอีก 2 รุ่นย่อย มาพร้อมเทคโนโลยี e-Platform 3.0 แพลตฟอร์มที่ออกแบบให้รถมีความสมดุลพร้อมเทคโนโลยี BYD Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของบีวายดีที่สามารถจัดเก็บพลังงานและให้ระยะการขับเคลื่อนสูง อีกทั้งยังมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดขณะอยู่บนท้องถนน
BYD Dolphin หรือที่เรียกว่า “สุนทรียศาสตร์แห่งมหาสมุทร” มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่เทคโนโลยีแบตเตอรี่เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD อย่าง BYD Blade Battery มาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยชั้นสูง ด้วยโครงสร้างการจัดเรียงเซลล์แบตเตอรี่รูปทรงคล้ายใบมีดที่ช่วยลดการใช้งานโมดูลทำให้ลดน้ำลง และการระบบระบายความร้อนที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแม้ในสถานการณ์ที่เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและมีประสิทธิภาพที่คงทน นอกจากนี้ BYD Dolphin ถูกพัฒนาบน e-Platform 3.0 ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงาน พร้อมระบบส่งกำลัง 8 in 1 (ควบคุมกระแสไฟฟ้า แบตเตอรี่ และการขับเคลื่อน) ที่เพิ่มประสิทธิภาพการให้พลังงาน 20 เปอร์เซ็นต์ และลดปริมาณการใช้พื้นที่และน้ำหนักลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยแพลตฟอร์มอัจฉริยะนี้ยังช่วยส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
BYD Dolphin ประกอบด้วย 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard Range และรุ่น Extended Range ซึ่งนวัตกรรมขุมพลังของ Blade Batter ทำให้รุ่น Standard Range สามารถเดินทางได้ไกลถึง 410 กิโลเมตร และ 490 กิโลเมตร สำหรับรุ่น Extended Range (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางไกล ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังมีระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟต (Lithium Iron Phosphate) ความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้แรงบิดสูงถึง 180 นิวตัน-เมตร สำหรับรุ่น Standard Range และความจุ 60.48 กิโลวัตต์ กำลังมอเตอร์สูงถึง 150 กิโลวัตต์ แรงบิดมหาศาล 310 นิวตัน-เมตร สำหรับรุ่น Extended Range ด้วยมอเตอร์ที่ทรงพลัง ทำให้รุ่น Standard Range มีอัตราเร่งที่ 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายใน 12.3 วินาที และภายใน 7 วินาที สำหรับรุ่น Extended Range ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมด้วยหัวชาร์จ AC Type 2 ขนาด 7 กิโลวัตต์ และพอร์ตชาร์จ DC ขนาด 60 และ 80 กิโลวัตต์ ตามลำดับ, ที่ให้การเพิ่มระดับแบตเตอรี่จาก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเพียง 29 นาที อีกทั้งยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (VtoL) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด กล่าวว่า BYD Dolphin เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการความคล่องตัวการเดินทาง ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์และนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่ง BYD Dolphin ตอบโจทย์ในทั้งสองด้าน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดให้ความคล่องตัวและความสนุกในการขับขี่ รวมถึงนวัตกรรมการันตีระดับโลกอย่าง e-Platform 3.0 และ Blade Battery ที่ให้ความมั่นใจแก่ผู้ขับขี่ในด้านของคุณภาพ ความปลอดภัยและความอัจฉริยะ อีกทั้งยังสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือระยะทางไกล เรเว่ ออโตโมทีฟ มีความมั่นใจว่า BYD Dolphin จะสร้างกระแสความสําเร็จต่อจากการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกอย่าง BYD ATTO 3 และเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation
สำหรับราคาจำหน่าย BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท และ BYD Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท
นายประธานวงศ์ กล่าวต่อว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นอันดับหนึ่งในตลาด เพื่อรองรับการเป็นผู้นำในตลาด บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SHARGE สร้าง EV Charging Ecosystem ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเปลี่ยนสถานีชาร์จ (SHARGE) ทั้งหมด เป็น RÊVERCHARGER ให้กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในทุกภาคของประเทศไทย และกำหนดเป้าหมายการติดตั้งหัวชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ได้ครบ 1,100 หัว ภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อให้บริการเชิงรุกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ เรเว่ ออโตโมทีฟ และ SHARGE จะดำเนินการติดตั้งหัวชาร์จในพื้นที่อยู่อาศัย เช่น คอนโด หมู่บ้าน โรงแรม สถานที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน สถานที่ใช้สอยผสมผสานและโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้า BYD เป็นหลัก
ด้านนางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของ BYD ในการขับขี่อย่างยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นแนวคิดริเริ่มที่สอดคล้องกับโปรแกรมสิทธิพิเศษ Rêver Care และโครงการ RÊVERLUTION ของเรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้ขับขี่ BYD Dolphin จะได้รับสิทธิพิเศษ Rêver Care ซึ่งเป็นบริการหลังการขายที่เรามอบให้กับลูกค้าของเรา เรเว่ ออโตโมทีฟ มุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่าผู้ส่งมอบยานพาหนะ เราต้องการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นและสะดวกสบายให้กับลูกค้า พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมใหม่ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยผ่านนวัตกรรมสีเขียว เราได้ก่อตั้งโครงการคาร์บอนเครดิต “RÊVERLUTION Initiative” เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการดำเนินการตามแผน NDC ของประเทศไทยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผู้ขับขี่ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนโลกของเราสู่สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน สะท้อนกลับไปเป็นสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้รถ BYD ทุกคันอีกด้วย
นายประธานวงศ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรถ BYD ในปีนี้อย่างน้อย 50,000 คัน โดยมีสัดส่วนการจำหน่าย BYD Dolphin ประมาณ 30,000-40,000 คัน และรุ่น Atto 3 ประมาณ 20,000-30,000 คัน ในเดือนนี้มีรถ BYD Dolphin พร้อมส่งที่ 1,200 คัน จากนั้นจะนำเข้าล็อตละ 500 คัน
อย่างไรก็ตาม ศักยภาพตลาดรถโดยรวมของ BYD ในประเทศไทย และประเทศในอาเซียน ค่อนข้างได้รับความนิยมจากผู้ซื้อรถในประเทศไทย และปีนี้ Atto 3 ของ BYD ติดอันดับ 1 ในยอดรวมจดทะเบียนของรถ EV ในตลาดประเทศไทย ปัจจุบัน BYD Atto 3 มียอดจดทะเบียนมากกว่า 1.1 หมื่นคันและมีการส่งมองรถให้กับลูกค้าแล้วกว่า 1.5 หมื่นคัน มีสย่นแบ่งตลาดรถยนต์ ไฟฟ้า หรือ BEV ที่ 35.2% และจดทะเบียน อยู่ในตลาดติดอันดับ 10 ในประเทศไทย
#เรเว่ออโตโมทีฟ #BYDDolphin #ThaiSMEs