กองบรรณาธิการ
นายเกาะ วิง จวือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีเอฟเอไอ โรบอททิก อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า GFAI Group เริ่มต้นจาก บริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2525 (ค.ศ. 1982) ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ขวบปีที่ 42 แล้ว ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งและบริหารจัดการเงินสดเจ้าแรกในประเทศไทย และยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยจำนวนบุคลากรและทรัพยากรที่พร้อมให้บริการมากที่สุด 21 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่บริการทั่วประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมา Guardforce AI Group ขยายขอบเขตการให้บริการโดยก่อตั้งบริษัท จีเอฟเอไอ อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นเพื่อให้บริการด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ โดยจัดจำหน่ายหุ่นยนต์เพื่อการบริการหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ธุรกิจค้าปลีกได้อย่างครอบคลุม ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มบริษัทได้ขยายสาขาไปอีกหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และมาเก๊า พร้อมทั้งนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กที่สหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ GFAI, GFAIW ด้วย
สำหรับการออกบูธในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2023 ถือเป็นครั้งแรกที่ Guardforce AI Group ได้นำสินค้ามาจัดแสดงทั้งในส่วนของธุรกิจจัดการเงินสด และนวัตกรรมหุ่นยนต์ โดยธุรกิจการจัดการเงินสด เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการ “บริหารจัดการเงินสดแบบเบ็ดเสร็จ” บริษัทได้นำ การ์ดฟอร์ซ ดิจิตัล แมชชีน หรือเรียกสั้นๆว่า GDM (จีดีเอ็ม) ซึ่งเป็นเครื่องเก็บเงินสดดิจิทัลที่มาพร้อมประกันคุ้มครองวงเงินนำฝาก 100% ตั้งแต่หย่อนเงินลงเครื่อง โดยได้ออกแบบตัวเครื่องและฟังก์ชั่นความปลอดภัยมาเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ร้านค้า คาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ เจ้าของกิจการ หรือผู้จัดการสามารถตรวจสอบยอดเงินแบบเรียลไทม์ได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้แล้วยังมีบริการ เข้ารับ/ขนส่งเงินสด บริการคัดนับและนำฝากเข้าบัญชีของลูกค้า ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามสโลแกน End-to-End Cash Management Solutions
ในด้านของโซลูชั่นหุ่นยนต์ ได้นำมาจัดแสดง 3 โมเดลด้วยกัน ซึ่งในหนึ่งธุรกิจ สามารถใช้ได้ทั้ง 3 โมเดล เริ่มต้นด้วย รุ่น T1 (ทีวัน) เหมาะกับการตั้งบริเวณด้านหน้า ด้วยตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของธุรกิจ เมนูอาหาร ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่หรือโปรโมชั่นต่างๆ อีกทั้งยังมีระบบจดจำใบหน้าและ ID Card พร้อมกล้องอัจฉริยะที่สามารถยืนยันตัวบุคคลหรือพนักงานสำหรับผ่านเข้าประตู พร้อมการจัดเก็บข้อมูลการตอกบัตรเข้าออกของพนักงาน และระบบการจัดการข้อมูลแขก/ลูกค้าและการนัดหมาย/การจองด้วย
รุ่นที่ 2 ชื่อว่า Deli (เดลิ) หรือ delivery เป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร แต่ไม่จำกัดเพียงแค่นั้น โดยลูกค้าสามารถนำไปปรับใช้ในสำนักงานหรือองค์กรเพื่อช่วยเรื่องของการรับ/ส่งเอกสารหรือสินค้า ยกตัวอย่างโรงพยาบาลได้นำไปปรับใช้ในการส่งยาให้กับคนไข้ และรุ่นสุดท้าย Hygiene (ไฮยีน) หุ่นยนต์พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ที่สามารถเดินพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อได้ทั่วบริเวณ และขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการนำไปปรับใช้ในสปาหรือโรงแรม โดยการใส่น้ำมันหอมระเหย/น้ำมันอโรม่า เพื่อสร้างบรรยากาศของสถานที่ได้ตามต้องการอีกด้วย
“การ์ดฟอร์ซ เอไอ กรุ๊ป ได้รับการยอมรับในด้านบริการรักษาความปลอดภัยและหุ่นยนต์บริการในระดับโลก เรามีบุคลากรและศูนย์บริการพร้อมให้บริการลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย โดยเป้าหมายหลักของเราในงานนี้คือกลุ่มลูกค้าเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีทั้งหลายที่ต้องการความสะดวกและความปลอดภัยในการดำเนินงานรายวันและในเฉพาะงานนี้เราได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ! มูลค่าสูงสุด 20,000 บาท ในส่วนของหุ่นยนต์บริการสำหรับลูกค้าด้วย” นายเกาะ วิง จวือ กล่าว
ด้านผลประกอบการที่ผ่านมา และแนวโน้มธุรกิจในกลุ่มบริษัทการ์ดฟอร์ซเอไอในประเทศไทยนั้นที่ ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 เป็นอย่างมาก เนื่องจากลูกค้าของเราอยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมโรคเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี นั่นก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของ จีเอฟเอไอ อินโนเวชั่น แอนด์ โซลูชั่น ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมหุ่นยนต์เข้ามาให้บริการและสามารถตอบโจทย์กับสภาวะของสังคมและธุรกิจในขณะนั้นได้อย่างดีเยี่ยม ดังที่จะเห็นหุ่นยนต์ T1 ของเราไปทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิอยู่ตามห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการต่างๆ ในช่วงนั้น ทั้งนี้ปัจจุบันทั้งสองธุรกิจอยู่ในแนวโน้มที่ดีโดย จีเอฟเอไอ โรบอททิก อินโนเวชั่นแอนด์โซลูชั่น เติบโตขึ้น 20% และการ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ เริ่มกลับสู่จำนวนงานตามปกติ และมากยิ่งขึ้นด้วยการชนะการประมูลเป็นผู้ให้บริการศูนย์เงินสดกลางของธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) จำนวน 4 ศูนย์ ได้แก่ ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดรธานี และพิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม Guardforce AI Group ยังมองเห็นโอกาสในการเติบโตได้อีกมากสำหรับธุรกิจหุ่นยนต์บริการในประเทศไทย เพราะด้วยเทรนด์ของโลกที่เปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ จีเอฟเอไอก็จะไม่หยุดพัฒนาหุ่นยนต์และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาสู่ท้องตลาด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ส่วนของการ์ดฟอร์ซ แคช โซลูชั่นส์ แม้ว่าเทรนด์การใช้เงินสดจะลดลง แต่ยังคงมีความจำเป็นมากต่อสังคมในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการอย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ พร้อมๆกับการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และนำเสนอโซลูชั่นส์ใหม่ๆให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
สำหรับยอดขายหุ่นยนต์ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 700 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยลูกค้าหลักจะเป็นลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ อาหาร ราชการ รัฐวิสาหกิจ และโรงพยาบาล โดยบริษัทให้บริการหุ่นยนต์ทั้งในแบบเช่าใช้ มีค่าบริการที่ 9,000 บาทตาอยูนิตต่อเดือนมีระยะเวลาสัญญา 3 ปี และขายตรงไปยังลูกค้าธุรกิจและคอร์ปอเรท มีการรับประกัน 1 ปี
สำหรับสัดส่วนรายได้ของธุรกิจหุ่นยนต์ มาจากการให้บริการเช่าที่ 60 เปอร์เซ็นต์และขายตรงไปยังกลุ่มธุรกิจและคอร์ปอเรทที่ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยหุ่นยนต์มีราคาเริ่มต้นที่ 130,000 บาทถึง 200,000 บาท
และบริษัทมองว่าธุรกิจการจำหน่ายและให้เช่าหุ่นยนต์ในตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะใช้จุดแข็งในการทำตลาดด้วยการนำเสนอหุ่นยนต์ที่มีคุณภาพ มีศูนย์บริการทั่วประเทศ
#GuardforceAIGroup #หุ่นยนต์เพื่อการบริการ #บริษัทรักษาความปลอดภัยการ์ดฟอร์ซคชโซลูชั่นส์(ประเทศไทย) #บริษัทจีเอฟเอไอโรบอททิกอินโนเวชั่นแอนด์โซลูชั่น(ประเทศไทย) #ThaiSMEs