กองบรรณาธิการ
แกร็บ เผยอินไซต์ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีปี 2565 ผ่าน รายงานเทรนด์ธุรกิจเดลิเวอรีปี 2565 (Delivery Trend Report 2022) โดยได้ศึกษาพฤติกรรมและสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการ*ที่มีต่อแพลตฟอร์มเดลิเวอรีกว่าสามหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุม 6 ประเทศ อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและไทย พบยอดการจัดส่งเดลิเวอรีบนแพลตฟอร์มแกร็บทั่วทั้งภูมิภาคโตขึ้นถึง 24% ในปี 2565 โดย 7 ใน 10 ของผู้บริโภคระบุว่าบริการสั่งเดลิเวอรีได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต พร้อมเผยเทรนด์ “อาหารเพื่อสุขภาพ สแน็ก-ของว่างยามบ่าย และแพ็คเกจสมาชิก” กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ชี้ชัดการสมัครแพ็กเกจสมาชิกจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจเดลิเวอรีในยุคต่อไป
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เผย ในฐานะผู้นำด้านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี แกร็บ เริ่มจัดทำและเผยแพร่รายงานแนวโน้มการใช้บริการเดลิเวอรีประจำปีมาตั้งแต่ปี 2564 ล่าสุด ในปีนี้เราได้เปิดตัว รายงานเทรนด์ธุรกิจเดลิเวอรีปี 2565 โดยได้ศึกษาพฤติกรรมพร้อมสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการกว่าสามหมื่นคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ทั้งยังได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญและแหล่งข้อมูลเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่าธุรกิจเดลิเวอรียังคงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดย 7 ใน 10 ของผู้บริโภคระบุว่าการใช้บริการเดลิเวอรีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาไปแล้ว
“ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ยอดการจัดส่งเดลิเวอรีผ่านแพลตฟอร์มแกร็บเติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายต่อออเดอร์ (Basket size) ของการสั่งสินค้าหรืออาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ทในปี 2565 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2562 ทั้งนี้ สำหรับในประเทศไทย 3 เหตุผลหลักที่คนไทยเลือกใช้บริการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี คือ ความสะดวกสบายในการใช้บริการ การจัดส่งที่รวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการแบบออนดีมานด์ และเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสามารถสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวได้ง่ายขึ้น”
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยผู้บริโภค 9 ใน 10 คนระบุว่าชื่นชอบแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และมองว่าปัจจุบันแอปพลิเคชันเดลิเวอรีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดส่งอาหารหรือของใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ โดย 88% ของผู้ใช้บริการรู้จักร้านใหม่ๆ ผ่านการใช้แอปพลิเคชันเดลิเวอรี และกว่า 90% ของผู้ใช้บริการเปิดใจสั่งสินค้าจากร้านที่ไม่เคยรู้จักอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ด้านผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดย 9 ใน 10 รายของผู้ประกอบการในไทยกล่าวว่า แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด ขณะที่ 73% ของผู้ประกอบการในภูมิภาคระบุว่ายอดขายออนไลน์ส่วนใหญ่มาจากบริการแกร็บฟู้ด
แกร็บยังได้เผยอินไซต์ของผู้ใช้บริการแกร็บฟู้ดและแกร็บมาร์ทที่สะท้อน 3 เทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า อันได้แก่
• เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น: อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงอาหารประเภทแพลนท์เบส (plant-based) ไม่ได้ถูกจำกัดความนิยมอยู่แค่ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป 74% ของคนไทยระบุว่าในทุก 2-3 วันจะมีการสั่งอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อย 1 ครั้ง ขณะที่ 2 ใน 5 ของผู้บริโภคเคยลองรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบหลักจากพืชหรือแพลนท์เบสในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
• สแน็กและของว่างยามบ่ายมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น: จากรายงานพบว่าคนไทย 2 ใน 5 ทานอาหารว่างหรือขนมขบเคี้ยวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ผู้คนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น การรับประทานอาหารว่างหรือสแน็กระหว่างวันจึงกลายเป็นกิจกรรมกลุ่มที่เพิ่มสีสันให้กับผู้บริโภค โดย 64% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาสั่งอาหารว่างสำหรับทานมากกว่าหนึ่งคนขึั้นไป
• แพ็กเกจสมาชิกสำหรับผู้ใช้บริการเดลิเวอรีกำลังมาแรง: 1 ใน 3 ของผู้ใช้บริการเดลิเวอรีในปัจจุบันมีการสมัครใช้แพ็กเกจสมาชิก (Subscription) อย่างน้อย 1 แพ็กเกจเพื่อรับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้บริการที่ใช้แพ็กเกจสมาชิกมีอัตราการสั่งอาหารหรือสินค้าผ่านเดลิเวอรีบ่อยขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการทั่วไป
สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยม ประกอบด้วย
• 5 เมนูขายดีประจำปีบนแกร็บฟู้ด คือ 1) ไก่ทอด 2) กาแฟ 3) ส้มตำ 4) ข้าวซอย และ 5) ชาเขียวเย็น
• กาแฟคือเครื่องดื่มยอดนิยม: คนไทยนิยมดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ทุกๆ 1 นาทีจะมีผู้ใช้บริการสั่งกาแฟผ่านแกร็บฟู้ดถึง 15 แก้ว หรือมากกว่า 7.8 ล้านแก้วตลอดทั้งปีเลยทีเดียว!
• 5 สินค้าขายดีบนแกร็บมาร์ท คือ 1) น้ำมันประกอบอาหาร 2) น้ำดื่ม 3) น้ำอัดลม 4) น้ำตาล และ 5) นม
• ATK กลายเป็นไอเทมมาแรง: ทุกๆ 1 นาทีมีคนซื้อชุดตรวจโควิด 1 ชุดผ่านแกร็บมาร์ท หรือมากกว่า 525,000 ชุุดตลอดทั้งปี
• สินค้าขายดีช่วงปีใหม่ หนีไม่พ้น น้ำอัดลม พิซซ่า ไก่ทอด รวมถึงมันฝรั่งทอดกรอบ
การสำรวจความคิดเห็นนี้จัดทำโดยบริษัท Kantar และ NielsenIQ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 33,840 คนจาก 6 ประเทศ
#แกร็บ #อินไซต์ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีปี’ 65 #ThaiSMEs