กองบรรณาธิการ
อาลีบาบา เผย 5 วิธี ผสานความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับในวัฒนธรรมองค์กร กรีนพีซ (Greenpeace) องค์กรการเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศได้ออกรายงานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยทาง กรีนพีช ยกให้ อาลีบาบา กรุ๊ป เป็นผู้นำในกลุ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นบริษัทเดียวที่ กำหนดเป้าหมายระยะเวลาที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน สำหรับการดำเนินงานทั่วทั้งอีโคซิสเท็ม
แนวคิดในการลดคาร์บอนของอาลีบาบาเริ่มต้นจากการผสานความตระหนักรู้เรื่องสภาพอากาศเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานในแต่ละวัน บริษัทได้ปฏิบัติตามหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลัก 5R ของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สำนักงานหลัก ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน
จุดเริ่มต้นของออฟฟิศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ออฟฟิศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นที่คำนึงถึงอากาศที่ถ่ายเท คุณภาพอากาศ สภาวะน่าสบาย (Thermal Comfort) เสียงรบกวน และแสงนั้น สามารถทำให้สุขภาพดีขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจ อารมณ์ และสวัสดิการโดยรวมของพนักงาน
ในมุมมองทางธุรกิจ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ช่วยสะท้อนถึงการเติบโตขององค์กรเช่นกัน จากการที่นักลงทุนเริ่มมองว่า ESG เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิเคราะห์ว่าบริษัทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ๆ มีโอกาสในการเติบโตหรือไม่
ประการที่สำคัญที่สุดคือ หลายองค์กรได้นำแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบขององค์กรและการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบัน อาคารและตึกต่าง ๆ ทั่วโลกปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกือบ 40% ของจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทั้งโลกปล่อยในแต่ละปี[1] ดังนั้น การพัฒนาออฟฟิศใหม่เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ควรพัฒนาให้เร็วที่สุด
ลองสำรวจออฟฟิศของคุณ: จะทำอย่างไรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น?
ออฟฟิศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นมากกว่าการรีไซเคิลขยะในครัว ซึ่งเห็นได้จากการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ก้าวหน้าไปมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ อาลีบาบา เสนอตัวอย่าง 5 วิธีง่าย ๆ ในการสำรวจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน เพื่อเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ลดการใช้น้ำและพลาสติกฟุตพริ้นท์
อาลีบาบาได้นำแนวทางการประหยัดน้ำและเครื่องใช้สุขภัณฑ์มาใช้อย่างกว้างขวาง เช่น สร้างระบบกรองน้ำที่สามารถเปลี่ยนน้ำประปาเป็นน้ำดื่มได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้และยังติดตั้งถังรีไซเคิลพลาสติกอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเก็บค่าธรรมเนียมพลาสติกหากใช้กล่องอาหารกลางวันแบบใช้แล้วทิ้งในโรงอาหารเพื่อลดขยะพลาสติกไปในตัว
ติดตั้งระบบประหยัดพลังงานทั่วสำนักงาน
นอกเหนือจากพลังงานแสงอาทิตย์และระบบไฟ LED แล้ว สำนักงานของอาลีบาบายังมีระบบจัดการประหยัดพลังงานรวมถึงเซ็นเซอร์ด้านสิ่งแวดล้อมและเครื่องมือ IoT อัจฉริยะเพื่อควบคุมการใช้พลังงานในสำนักงาน ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากอย่าง จอฉายภาพ ไฟแสงสว่าง และเครื่องปรับอากาศ จะปรับเปลี่ยนได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงและจัดการการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่องในศูนย์อัจฉริยะของอาลีบาบา หลังจากที่ใช้มาตรการเหล่านี้ ปริมาณการใช้พลังงานต่อคนจึงลดลงไปกว่า 10% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะเพื่อลดการใช้พลังงาน
อาลีบาบาใช้ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ ซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิของสำนักงานโดยอัตโนมัติตามสภาพอากาศ อุณหภูมิ และการไหลเวียนของคนในห้อง เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศส่วนกลางแบบเดิม ระบบอัจฉริยะดังกล่าวสามารถลดการใช้พลังงานของทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้งานได้อย่างมาก ซึ่งลดปริมาณการใช้พลังงานต่อปีถึง 10%
ปลูกฝังความรับผิดชอบแต่ละบุคคลผ่านสิ่งที่ช่วยจูงใจพนักงาน
พนักงานของอาลีบาบาได้รับการสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุก ๆ ด้าน พนักงานจะได้รับรางวัลหากปฏิบัติตามวิธีการประหยัดพลังงานและการลดคาร์บอน 14 วิธีในสำนักงาน เช่น ปิดไฟและเครื่องปรับอากาศ ปรินต์กระดาษสองหน้า รีไซเคิลกล่องกระดาษแข็ง เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2063 ถึงสิงหาคม 2564 พนักงานกว่า 120,000 คนจึงสามารถปฏิบัติตามพฤติกรรมการลดคาร์บอนได้ถึง 750,000 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยคาร์บอน 336 ตัน
สนับสนุนให้เดินทางด้วยวิธีที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
อาลีบาบาสร้างระบบการเดินทางเพื่อสนับสนุนให้พนักงานใช้วิธีเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พนักงานจะได้รับคะแนนและรางวัลหากใช้รถรับส่งที่บริษัทจัดให้เดินทางไปสำนักงานต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเรียกรถหรือขับรถด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการเดินทางที่ปล่อยคาร์บอนต่ำรูปแบบอื่น ๆ เช่น การใช้รถไฟความเร็วสูงแทนเครื่องบิน การใช้รถร่วมกัน หรือการรับเพื่อนร่วมงานขึ้นรถคันเดียวกัน หากปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ก็จะได้รับคะแนนเช่นกัน ซึ่งทำให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2564 พนักงาน 16,000 คนของอาลีบาบาโดยสารรถไฟความเร็วสูงเส้นปักกิ่ง-หางโจวมากกว่า 50,000 ครั้ง และมีพนักงานมากกว่า 90,000 คนโดยสารรถคันเดียวกันมากกว่า 760,000 ครั้ง
การลงทุนกับนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานภายในสำนักงานจะช่วยผลักดันพนักงานไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับที่อาลีบาบากระตุ้นอีโคซิสเท็มทั้งหมดเพื่อสนับสนุนผู้ค้าให้ทำเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทอื่น ๆ ในไทยก็สามารถริเริ่มแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายในองค์กรได้เช่นกัน เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับสุขภาพของทั้งพนักงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
#อาลีบาบา #วัฒนธรรมองค์กร #แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน #ThaiSMEs