กองบรรณาธิการ
เมื่อโลกเปลี่ยน กระบวนการทำงานย่อมเปลี่ยนไป โควิด-19 ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างรวดเร็ว สถานที่ทำงานในอนาคตต้องผสมผสานการทำงานจากระยะไกลและการทำงานในสำนักงานเข้าด้วยกัน การทำงานแบบไฮบริดต้องมีเทคโนโลยีการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย ซึ่งองค์กรต้องวางแผนการทำงานที่สอดคล้องรับมือการเปลี่ยนแปลงโดยคำนึงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะก้าวไปในอนาคต
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด บริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ที่พร้อมช่วยให้ทุกอุตสาหกรรมเผชิญความท้าทายในโลกดิจิทัล กล่าวว่า เอ็นทีที มีโซลูชั่นหลากหลายที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าสำหรับก้าวต่อไปของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในยุค New Normal ที่ต้องผสมผสานการทำงานจากข้างนอก ไม่จำกัดสถานที่ ให้เข้ากับการทำงานในสำนักงาน โดยคำนึงถึงพนักงานที่ต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากการใช้เทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์
“Employee Experience” ของเอ็นทีที จะเสริมการทำงานของพนักงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ และทำให้ดีที่สุด โดยยุค New Normal ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานไปอย่างมาก หลายองค์กรทำงานจากที่บ้าน ฉะนั้น ปัญหาไอทีที่พนักงานเคยต้องเรียกคนไอทีมาช่วยแก้ไข กลับต้องแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เพราะไม่สามารถรอจนกว่าจะเข้าสำนักงานได้ ซึ่งองค์กรต้องลงทุนระบบ เพื่อทำ Self-Service ให้พนักงานแก้ไขได้ง่ายด้วยตัวเองได้ โดยระบบนี้จะมี pop-up ให้เรียกใช้และดำเนินการตามขั้นตอนไปได้เองแบบไม่ซับซ้อนยุ่งยาก หรือพนักงานใหม่ก็เพียงแค่เซ็ตระบบเข้าทำงานผ่านโน้ตบุ๊คได้เอง
ขณะเดียวกัน รูปแบบการจัดประชุมก็เปลี่ยนแปลงไป การประชุมส่วนตัวมีมากขึ้น การจัดห้องประชุมมีขนาดเล็กลง แต่อุปกรณ์ต้องพร้อม ระบบจองห้องประชุมชัดเจน ซึ่งระบบของเอ็นทีที มีระบบยกเลิกอัตโนมัติ กรณีจองแล้วไม่ใช้งานภายในกี่นาที
“เราคิดกระบวนการทำงานอย่างไรให้ผู้ใช้งานหรือ user ได้มี experience ที่ดีที่สุด โดยมีเครื่องมือเข้ามาประกอบ ช่วยแก้ปัญหาไอทีที่คนทั่วไปมักทำเองไม่ค่อยได้ ซึ่งผ่านการคิดอย่างรอบคอบรวมถึง Office Management, Knowledge Management หรือ Experience Management”
โซลูชั่นที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแบบไฮบริด ในด้านระบบสื่อสารที่ต้องทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย
– ระบบเสียง (Voice Transformation) ทั้งนี้ ระบบสื่อสารทาง เอ็นทีที มีพร้อมให้บริการครบทั้งภาพรวม โดย user สามารถเลือกโทรติดต่อถึงกันผ่านวิธีใดก็ได้ เช่น ค้นหารายชื่อจากเลขหมาย, ค้นหาจาก Outlook 365 หรือเพียงกดเลขแค่ 4 ตัวท้าย ระบบจะโอนสายไปถึงตัวพนักงานคนนั้น ๆ นอกจากนี้ ในส่วนการทำงานของคอนเท็กต์เซ็นเตอร์ (Contact Center) ที่เดิมต้องเข้าสำนักงาน แต่ปัจจุบันสามารถนำขึ้นคลาวด์ ทำงานจากที่บ้านได้ และวัดประสิทธิภาพการทำงานของคอนเท็กต์เซ็นเตอร์ หรือพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านได้เช่นกัน
– ระบบการประชุมแบบไฮบริด (Hybrid Meeting and Room Integration) ปรับรูปแบบห้องประชุมตามการเปลี่ยนแปลง ห้องประชุมมีขนาดเล็กลง จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมลดลง แต่มีหลากหลายห้อง หลากหลายมิติ ห้องประชุมแบบ Class Meeting Room จะเริ่มน้อยลง ระบบนี้จะเชื่อมต่อการทำงานของไวท์บอร์ดของซิสโก้เว็บเอ็กซ์ เข้ากับไมโครซอฟท์ 365 ทำให้การประชุมใช้ไวท์บอร์ดนำเสนอได้เหมือนการประชุมปกติทั่วไป โดยการประชุมสามารถทำผ่านระบบโทรศัพท์ หรือวิดีโอ ของซิสโก้ หรือจากระบบการประชุมอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น WebEx Collaboration, Video Devices, Cloud Video Interop (CVI) ที่อินทีเกรตรวมทุกระบบเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ระบบสื่อสารผ่านคลาวด์ (Cloud Communication) user ที่ไม่ต้องการใช้เลขหมาย 02 สามารถใช้บริการผ่าน NTT Cloud Communication ได้ โดยบริการนี้เอ็นทีที จะเชื่อมต่อไปยังระบบนั้น ๆ ของลูกค้าแล้วปล่อยออกทางเลขหมาย 02 ของบริษัทที่เตรียมไว้ให้บริการ
นอกจากนี้ ยังมี Modernize Devices Management ทำหน้าที่บริหารจัดการอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พนักงานใช้ให้ใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นไอแพด สมาร์ทโฟน โดยใส่กระบวนการทำงานให้สนับสนุนการทำงานของพนักงานเหล่านั้นเข้าไป ทั้งคนทำงานที่บ้านบ้าง เข้าออฟฟิศบ้าง หรือคนที่รีโมตอย่างเดียว หรือทำงานที่ออฟฟิศอย่างเดียว ซึ่งใช้อุปกรณ์แตกต่างกัน การจัดการก็จะต่างกันไปด้วย
ขณะเดียวกัน มีระบบการจัดการตัวตนและสิทธิการเข้าถึงระบบงาน (Identity Management) รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน เช่น เคยเข้าใช้งานจากอุปกรณ์หนึ่งประจำ แต่วันหนึ่งปรากฏว่าเข้าใช้งานจากอุปกรณ์อื่น และเวลาที่แตกต่างไป ระบบจะดำเนินการจำกัดสิทธิการเข้าใช้งานให้ทันที ซึ่งขึ้นกับนโยบายขององค์กร
ส่วนด้าน Desktop Transformation บริษัทมีบริการ Desktop as a Service อำนวยความสะดวกด้วยการทำงานบนเดสก์ท้อปในระบบเสมือน ซึ่งผู้ใช้งานจะใช้อุปกรณ์ใดเชื่อมสู่การทำงานระบบเสมือนก็ได้ แต่จะให้ความรู้สึกการทำงานเหมือนอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
ทั้งหมดนี้เอ็นทีที พร้อมให้บริการครบวงจร (End-to-end) แก่ลูกค้า โดยสามารถแบ่งการลงทุนเป็นเฟสได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า เช่น ระบบสื่อสารจะเริ่มเฟสแรกอย่างไร เฟสที่สองจะปรับปรุงตรงไหน ใช้เวลาอย่างไร ขึ้นกับงบประมาณและเวลาตามที่ต้องการ โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ
บริษัท เอ็นทีที จำกัด (NTT Ltd.) เป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก บริษัทร่วมมือกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อพัฒนาและส่งมอบความสำเร็จให้กับลูกค้าผ่านโซลูชั่นเทคโนโลยีอัจฉริยะ สำหรับเอ็นทีที อัจฉริยะหมายถึงการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การเชื่อมโยงถึงกัน ระบบดิจิทัล และความปลอดภัย ด้วยความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความสามารถด้าน ICT ที่มีกระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอบริการทางเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ ระบบเครือข่ายคลาวด์ ไฮบริดคลาวด์ บริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ระบบการทำงาน และระบบรักษาความปลอดภัย (Cybersecurity) ได้อย่างโดดเด่น
ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับโลก บริษัทมีพนักงานมากกว่า 50,000 คนครอบคลุม 57 ประเทศในภูมิภาคต่างๆ มีการทำธุรกิจใน 73 ประเทศ และให้บริการแก่ลูกค้าในกว่า 200 ประเทศ ภายใต้เป้าหมายที่ว่า เมื่อร่วมมือกัน เราจะสร้างสรรค์อนาคตที่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกัน
#เอ็นทีที #NewNormal #HybridWorkplace #ThaiSMEs