กองบรรณาธิการ
เอปสัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศสานต่อปณิธานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ภายในงานเปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคแห่งใหม่ที่ Alexandra TechnoPark ประเทศสิงคโปร์ ชูแผนงานพัฒนาความยั่งยืนสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2025
นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน สิงคโปร์ กล่าวว่า สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งใหม่นี้ประกอบด้วยโซลูชั่นเซนเตอร์ 2 แห่ง ที่จะทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อมให้แก่คู่ค้าและลูกค้าของเอปสันจากทั่วภูมิภาค ซึ่งล้วนแต่เป็นนวัตกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการพิมพ์ ด้านการฉายภาพ หุ่นยนต์แขนกล และ PaperLab ซึ่งเป็นเครื่องผลิตกระดาษด้วยกระบวนการแบบแห้งเครื่องแรกของโลก
“การย้ายมาที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้มีนัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ข้อแรก เป็นการตอกย้ำว่าเอปสันยังคงมีความมั่นใจในประเทศสิงคโปร์ ในการเป็นศูนย์รวมธุรกิจของเอปสันสำหรับภูมิภาคนี้ ข้อสองคือการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอปสันที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานขององค์กรธุรกิจในภูมิภาคนี้ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ไม่เพียง จะช่วยเพิ่มผลิตผล แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนอีกด้วย และข้อสุดท้าย คือความพยายามจะทำให้ลูกค้าของเอปสันได้พบกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบธุรกิจปัจจุบัน การเลือกเอปสันจึงเท่ากับการเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้กับธุรกิจ ที่ทั้งเพิ่มผลผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปในเวลาเดียวกัน
นายซิ่ว กล่าวถึงผลกระทบอย่างรุนแรงทางสังคมจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน และความร่วมมือระหว่างกลุ่มบิรษัทเอปสันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลสิงคโปร์ รวมถึงหน่วยงาน NGO ในภูมิภาคนี้ เพื่อรณรงค์เรื่องการสร้างความยั่งยืนและสร้างการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจ โดยยกตัวอย่างของความร่วมมือล่าสุดกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ในการยกระดับความตื่นตัวต่อปรากฏการณ์การละลายของชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ที่ขั้วโลกเหนือ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะส่งผลร้ายกับทั่วโลก ดังนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่สร้างความยั่งยืน จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมได้
“เอปสันได้พยายามสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และกระตุ้นภาคธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่องการดำเนินงานอย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเอปสันในทุกประเทศ ในการสร้างสังคมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน”
ทั้งนี้เอปสัน มีแผนงานพัฒนาความยั่งยืนสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะเวลา 3 ปี หรือ ภายในปี 2025 ภายใต้ เป้าหมายเพื่อหารพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Global Goals for Sustainable Development) ในข้อ 12 และ 13 โดยเอปสันจะมุ่งเน้นการรับรองแผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) และดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ (Climate Action)
นายชิ่ว กล่าวว่า เพื่อรองรับการพัฒนาความยั่งยืนในภูมิภาค เอปสัน ได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์แท็งค์หมึกที่ใช้พลังงานน้อยกว่า มาตรฐาน Energy star ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ใช้ส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกของเครื่องพิมพ์ ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล 30 เปอร์เซ็นต์ และบรรจุภัณฑ์ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของโรงงานผลิตของกลุ่มเอปสัน จะดำเนินงานด้วยพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดภายในปี 2023 และโรงงานของเอปสันที่ฟิลิปปินส์ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021 บริษัท ยังร่วมกับพันธมิตรจัดทำโครงการเพื่อเสริมสร้างชุมชน อาทิ แคมเปญ Turn Down the Heat ที่ช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวเทคโนโลยี Heat-Free ที่เป็นทางเลือกในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสนับสนุนแผนสิงคโปร์สีเขียวในปี 2030 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นที่จะผลักดันทั้ง 17 ข้อของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติ (SDGs) โดยมีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมภายในปี 2550 โดยบริษัทมีเป้าหมายที่การปราศจากการปล่อยคาร์บอนและการใช้ทรัพยากรธรณีภายในปี 2050
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดสำนักงานใหม่ครั้งนี้ก็คือเครื่อง PaperLab ที่ตั้งอยู่ในโซลูชั่นเซนเตอร์ส่วนองค์กรธุรกิจ ซึ่ง PaperLab เป็นเครื่องผลิตกระดาษขึ้นมาใหม่จากกระดาษที่ใช้แล้วในสำนักงาน ที่ใช้เทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสัน ไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ต่างจากการรีไซเคิลกระดาษแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ กระดาษที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่ยังสามารถกำหนดความหนา ขนาด และสีของกระดาษอีกด้วย โดยกระบวนการผลิตกระดาษใหม่นี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ การย่อยให้เป็นเส้นใย (Defibrating) การผสานเส้นใย (Binding) และการขึ้นรูปกระดาษ (Forming) ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญในกระดาษเก่าจะถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์แบบ PaperLab มีแผนเริ่มจำหน่ายภายในปีนี้โดยเริ่มจากประเทศสิงค์โปร์ และจะทยอยเปิดตัวในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ โซลูชั่นเซนเตอร์ทั้งสองศูนย์ยังได้รวมเอาสินค้า B2B ครบทั้งไลน์ของเอปสันไว้ ทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สแกนเนอร์ โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ โปรเจคเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับการพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ภาพถ่าย ป้ายโฆษณา และสิ่งทอ
“ความยั่งยืนเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีจำนวนธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เราจะเดินหน้าผลักดันให้ความยั่งยืนเติบโตขึ้นในสังคมธุรกิจของประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทั้งหลายของเรา” นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า การย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งใหม่ และการเปิดตัว PaperLab ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเอปสัน ในการให้ความรู้กับคู่ค้าและลูกค้าเกี่ยวกับโซลูชั่นที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นหนทางสู่การสร้างชุมชนที่เป็นมิตรและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคนี้
นอกจากนี้นายยรรยง กล่าวว่า การตั้งโซลูชั่นเซนเตอร์ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจ เนื่องจากเป็นศูนย์แสดงและสาธิตสินค้าสำหรับธุรกิจ B2B เช่น เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ รวมถึงการแสดงการทำงานของหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆด้วย
สำหรับธุรกิจในประเทศนับว่าเอปสันประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดเครื่องพิมพ์และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกิจหุ่นยนต์ โดยประเทศไทยมีการเติบโตอันดับ 1 เมื่อเทียบกับเอปสันในประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับตลาดหุ่นยนต์หรือ Robot ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ ฮาร์ดดิสก์ รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น และเอปสันมีแผนที่จะลงทุนตั้ง Robot Solution Center ใประเทศไทยในอนาคต เพื่อเป็นศูนย์แสดงสินค้าและสาธิตการทำงานของหุ่นยนต์ รองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเป็นตลาดที่มีศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
#เอปสัน #PaperLab #RobotSolutionCenter #ThaiSMEs #AlexandraTechnoPark #UNGlobalGoalsforSustainableDevelopment