แอดไวซ์ พร้อมเข้าตลาด IPO กลางปีหน้า ตั้งเป้ายอดขายออนไลน์ 25% ปี 64

กองบรรณาธิการ

นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะให้บริษัทประเมินสินทรัพย์ เข้ามาประเมินบริษัทก่อนนำเสนอขายหุ้นครั้งแรก (Initial Public Offering หรือ IPO) กับสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เพื่อพิจารณา และคาดว่าบริษัทจะสามารถนำเสนอ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ในกลางปีหน้า ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน แอดไวซ์ มีสาขาครอบคลุมกว่า 350 สาขาทั่วประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปัจจุบันมี 20 กว่าสาขา  และมีแผนการขยายไปยังภูมิภาคต่างๆ ในประเทศลาวเพิ่มด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังขยายธุรกิจในส่วนออนไลน์มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่คุ้นเคยและมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ 19 เปอร์เซ็นต์จากรายได้รวมของบริษัทเพิ่มมากขึ้นเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้

“แอดไวซ์มีการปรับรูปแบบการดำเนินงาน การทำตลาดและการให้บริการ จากเชิงรับเป็นเชิงรุกมากขึ้น พร้อมมุ่งเน้นการทำตลาดออนไลน์ ทั้งในส่วนของช่องทางหลักอย่างอี-คอมเมิร์ช เรายังขยายช่องทางในส่วนของมาเก็ตเพลส และโซเชี่ยลคอมเมิร์ช เพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามสถานการณ์ในปัจจุบัน”

สำหรับสินค้า 3 กลุ่มหลักที่ทำรายได้มากที่สุดได้แก่ กลุ่มสินค้า โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ สินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ซัพพลาย และกลุ่มพริ้นติ้ง

สำหรับในช่วงสถานการณ์โควิดนั้น บริษัทมองว่า โควิดมีผลกระทบน้อยกับบริษัทไอที เนื่องจากสินค้าไอที เป็นสินค้าโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับพนักงานในช่วงการทำงานที่บ้าน (Work from home) และเรียนที่บ้าน (Study from home) เนื่องจากอุปกรณ์ไอทีมีความจำเป็นในการติดต่อสื่อสาร และมีแนวโน้มในการเติบโต และบริษัทจะขยายตลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่เช่น ลูกค้าองค์กรและคอร์ปอเรท ซึ่งปัจจุบันมีรายได้จากองค์กรในสัดส่วน 3 เปอร์เซ็นต์

สถานการณ์ตลาดไอทีครึ่งปีหลัง การล็อคดาวน์ในขณะนี้จะคล้ายกับกับช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 2020 ซึ่งแอดไวซ์มีความเห็นว่าการรับมือไม่แตกต่างกันมาก เนื่องจากเรามีประสบการณ์จากครั้งแรกและเราทำงานได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในภาพรวมเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกนี้ ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แอดไวซ์ ได้มีการปรับปรุงการดำเนินงานและบริหารจัดการต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ การเพิ่มความสะดวกการใช้บริการที่สาขาด้วยบริการ Advice 3D เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการ ซึ่งประกอบด้วย Advice Drive Thru โดยจะมีพนักงานรับออ

เดอร์และจัดสินค้าส่งให้ลูกค้าเพียงมาจอดรถในจุดบริการ โดยสามารถให้บริการได้ทุกสาขาที่เป็นสแตนอโลนทั่วประเทศ และหากไม่สะดวกในการเดินทางมาจุดบริการสามารถเลือกใช้บริการ Advice Delivery เป็นบริการจัดส่งถึงบ้าน และทางด้านการบริการดูแลหลังการขาย Advice Dee Dee Onsite Claim & Service ทุกบริการเพื่อเป็นอีกช่องทางอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งในด้านการซื้อสินค้าและการให้บริการและตอบโจทย์ยุค New Normal อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยของลูกค้าในการใช้บริการอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดในปัจจุบัน มีหลายพื้นที่ๆได้รับผลจากการประกาศล็อคดาวน์ ซึ่งแอดไวซ์ได้รับผลกระทบบางส่วนในสาขาที่ตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าหรือไอทีพลาซ่าต่างๆ แต่เมื่อเทียบจำนวนสาขาที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนสาขาทั้งหมดแล้วนับว่าเป็นเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ของสาขาทั้งหมดเท่านั้น โดยสาขาที่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติมีจำนวนกว่า 300 สาขา นอกจากสาขาแล้วลูกค้ายังสามารถเลือกใช้บริการและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือสำนักงานใหญ่ได้ตามปกติ โดยสามารถใช้บริการจัดส่งถึงบ้านหรือเดินทางมารับสินค้าเองด้วยบริการ Drive Thru ได้ด้วย

นายจักรกฤช กล่าวว่า สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้มาจากการขายปลีก 60 เปอร์เซ็นต์และขายส่ง 40 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ จากรายได้ในปีที่ผ่านมา 13,500 ล้านบาท

#แอดไวซ์ #แอดไวซ์ลาว #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share