กองบรรณาธิการ
JD CENTRAL ผู้นำด้านเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซและธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ประกาศปรับกลยุทธ์ ครั้งใหญ่! ชู “จอยชัวร์ ตัวจริง” รับประกันความมั่นใจให้นักช้อปทุกมิติ รองรับนักช้อปชาวไทยทั้งประเทศ
จากผลสำรวจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา* พบว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 20% ต่อปี และตลาดยังคงมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดรีเทลทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้เล่นในตลาดอีคอมเมิร์ซที่จะผลักดันให้ตลาดเติบโตไปพร้อมกับการรุกตลาดนี้ ด้วยการดึงนักช้อปที่ยังคงช้อปที่หน้าร้านค้าเป็นหลัก หรือ ที่เราเรียกว่า กลุ่มออฟไลน์ (ช้อปหน้าร้านเท่านั้น) และ นักช้อปกลุ่มไฮบริด (ช้อปออนไลน์บ้างแต่ไม่บ่อย และช้อปเฉพาะเว็บไซต์ทางการของแบรนด์) ให้มาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น
โดยในการจะเข้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักช้อปนั้น เป็นหน้าที่ของแพลตฟอร์มที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมของนักช้อปทั้งออฟไลน์ ไฮบริด และออนไลน์ให้รอบด้าน ซึ่งจากผลสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยกว่า 1,000 คน** พบว่านักช้อปมีความกังวล ‘เรื่องความไว้วางใจ’ เป็นหลัก โดยสิ่งที่นักช้อปกังวล 3 อันดับแรกเมื่อต้องซื้อสินค้าออนไลน์ ได้แก่ 1) สินค้าไม่ตรงปก 79% 2) สินค้าเสียหาย 56% 3) ขนส่งล่าช้า 38% นอกจากนี้ ผลสำรวจ*** ยังเผยถึงปัจจัยหลักที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของบรรดานักช้อปกลุ่มออฟไลน์และไฮบริดว่า 1) ดูความนิยมของร้านค้าหรือไปดูสินค้าที่หน้าร้านจริง 2) หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการ และ 3) ปัจจัยซื้อหลักจากยอดผู้ติดตาม หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงบนโซเชียลมีเดีย
นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL กล่าวว่า นับตั้งแต่ JD ได้มีการเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2561 เราได้ช่วยสร้างเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดย JD CENTRAL มุ่งสร้างความเติบโตทางธุรกิจด้วยการ การันตีคุณภาพของสินค้าและบริการเป็นหลัก ผ่านระบบ 4 JOYs: JOY Retail, JOY Marketing, JOY Solution และ JOY Fulfillment ซึ่งประกอบกันเป็น unique ecosystem ของ JD CENTRAL ครอบคลุมการทำงานในทุกมิติ และสร้างความสำเร็จที่มั่นคงให้กับเราเป็นอย่างมาก โดยในไตรมาส 1 ปี 2564 JD CENTRAL มียอดดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่นโต 94% ยอดขายโตพุ่ง 80% ยอดการซื้อต่อครั้ง โต 40%
“หากมองถึงสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจรีเทลและอีคอมเมิร์ซในยุคนี้ เราจะเห็นว่า มีการแข่งขันกันใน 3 แง่มุมได้แก่ 1) การแข่งขันด้านความครบครันของสินค้า 2) การสร้างความบันเทิงต่างๆ รวมไปถึง 3) การแข่งขันด้านราคาที่ค่อนข้างดุเดือด แต่กลับยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของ JD CENTRAL ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักช้อปที่ยังติดกับการไปซื้อสินค้าที่หน้าร้าน รวมถึงกลุ่มที่ซื้อสินค้าออนไลน์เฉพาะเว็บไซต์หรือร้านค้าทางการของแบรนด์เท่านั้น การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเปิดให้บริการในประเทศไทย โดย JD CENTRAL จะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค มากกว่าการให้ความสำคัญในเรื่องของสินค้าเพียงอย่างเดียว เป็นที่มาของกลยุทธ์ ‘จอยชัวร์ ตัวจริง’”
JD CENTRAL มีการปรับ brand identity 3 จุดหลัก ดังนี้
1) ปรับ Brand’s tagline เป็น “จอยชัวร์ ตัวจริง”
2) ปรับโลโก้ของ JD CENTRAL ให้ดูร่วมสมัยขึ้น
3) โปรโมท “JOY” ในฐานะแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของ JD CENTRAL เพื่อสร้างการจดจำเกี่ยวกับแบรนด์ และสร้าง brand recall ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อมัดใจนักช้อปทั่วประเทศ
นายก่อลาภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรีแบรนด์ในครั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงลูกค้าออฟไลน์ให้มีความมั่นใจในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ด้วย และลูกค้าหลักของบริษัทมีอายุระหว่าง 18-44 ปี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมียอดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมใน 3 อันดับแรก คือ สินค้าในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์และเท็ปเล็ต สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากคือสินค้าในกลุ่มแฟชั่น เป็นต้น
สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยคาดง่าจะมีการเติบโตอจ่างต่อเนื่องและมีการเติบโตอยู่ที่ 20-40 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของบริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์และมีแผนมี่จะนำสินค้าเข้ามารองรับความต้องการของลูกค้าและมีแผนที่จะจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มรายได้และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจมากขึ้น
#JDCENTRAL #จอยชัวร์ตัวจริง #อีคอมเมิร์ซและธุรกิจค้าปลีก #ThaiSMEs