กองบรรณาธิการ
การ์มิน เล็งไทยตลาดมีศักยภาพการเติบโตสูง ลูกค้าไทยนิยมสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ พร้อมลงทุนการตลาด บริการหลังการขายมากขึ้น
นายสกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างมากในปีที่ผ่านมาการ์มินมีการเติบโตในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ 7 เปอร์เซนต์ แม้ว่าในภาพรวมตลาดจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโรคระบาดโควิด-19 บริษัทมั่นใจว่าตลาดประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บริษัทจะใช้งบประมาณในการลงทุนมากขึ้นในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย กิจกรรมการตลาด ตลอดจนการบริการหลังการขาย เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภค
โดยในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายนั้นบริษัทได้เพิ่มดิสทิบิวเตอร์อีก 1 รายคือบริษัท ซีเอ็มจี เพื่อดูแลตลาดลูกค้าที่มาเดินห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล โรบินสัน รวมถึงร้านหนังสือบีทูเอส และมีดิสทิบิวเตอร์รายเดิม คือ บริษัท จีไอเอส ซึ่งดูแลตลาดทั่วไปและตลาดต่างจังหวัด
ทางด้านกิจกรรมการตลาดนั้น บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
และในส่วนของการบริการหลังการขายบริษัทได้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ (Call center) มีจุดรับสินค้า (Drop-off points) มากกว่า 300 จุดทั่วประเทศ รวมถึงกำลังจะให้บริการรับสินค้าที่บ้านลูกค้าสำหรับสินค้าที่ต้องการส่งซ่อม (Door-to-door service) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่สู่ตลาดทุกเดือน โดยปัจจุบันอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนเล่นกอล์ฟ คนเล่นฟิตเนส และผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง บริษัทยังมีร้านเรือธงของการ์มินที่วางจำหน่ายสินค้าและตัวอย่างสินค้า
ของการ์มิน หรือ Flagship store ที่เชียงใหม่และที่กรุงเทพด้วย
นายสกาย กล่าวว่า ตลาดอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมาก ตลาดประเทศไทยถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการ์มิน ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่อันดับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของอาเชียน และมีอัตราการเติบโตของตลาดอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ประเทศไทยยังครองอันดับ 1 ของตลาดเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศ อื่นๆของภูมิภาคอาเชียนสำหรับการ์มิน และเพื่อผลิตสินค้าให้สามารถรองรับความต้องการและผู้บริโภคชาวไทย บริษัทได้ทำการศึกษาข้อมูลความต้องการสินค้าจากผู้บริโภคเพื่อที่จะปรับคุณสมบัติของอุปกรณ์อัจฉริยะให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคคนไทยโดยเฉพาะด้วย
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าในปีนี้ตลาดประเทศไทยจะมีการเติบโต 2 ดิจิต และบริษัทการ์มินที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะใช้งบประมาณทางด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมและผลิตสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของตลาด และในปีที่ผ่านการ์มินเอเชียแปซิฟิคมีการเติบโตที่ 8 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้คาดว่าตลาดเอเชียแปซิฟิคโดยรวมจะมีการเติบโตที่ 11 เปอร์เซนต์
“อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของการ์มินได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักวิ่ง โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ของนักวิ่งฟลูมาราธอน สวมใส่อุปกรณ์ของการ์มิน และ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของนักวิ่งฮาล์ฟมาราธอนสวมอุปกรณ์ของการ์มินในการวิ่ง ซึ่งหมายความว่าการ์มินได้รับความไว้วางใจอย่างมากในหมู่นักวิ่งมาราธอน” นายสกาย กล่าว
#การ์มิน #ตั้งเป้าโต2ดิจิต #โควิด19