กองบรรณาธิการ
บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เปิดตัว Nokia 1.4 บุกตลาดไทย เจาะตลาดแมส ชูใช้งานได้ทุกเจนเนอร์เรชั่นในครอบครัว ครอบคลุมทุกการใช้งาน ถ่ายภาพ ดูหนัง ฟังเพลง เรียนออนไลน์ ประชุมผ่านวิดีโอคอล รองรับ การใช้งานผู้บริโภคยุค New Normal เพื่อชีวิตที่ง่ายและสะดวกสบาย ในราคาสบายกระเป๋า พร้อมรองรับแอพฯ “เป๋าตัง” และแอพฯ ธนาคาร สมัคร โอน เติม จ่าย ง่ายขึ้น สเปคไม่ธรรมดา มาพร้อมปฏิบัติการ Android 10 (Go edition) อัพเกรดได้ถึง Android 12 (Go Edition) ชิปเซ็ต Qualcomm ประมวลผลข้อมูลแบบไม่ติดขัด ให้กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการยืนยันตัวตน เลนส์คมชัดมีออโต้โฟกัส ถ่ายภาพบัตรประชาชน และสแกนใบหน้ายืนยันตัวตน หรือสแกนคิวอาร์โค้ดรวดเร็ว มาพร้อมกล้องคู่หลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล หน้าจอ HD+ ใหม่ ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว และแบตเตอรี่ใช้งาน 2 วัน
นายราวี คุณวา ผู้จัดการทั่วไปของภูมิภาคแพนเอเชีย เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า จากการออกแบบและการผลิตด้วยวัสดุคุณภาพดี สมาร์ทโฟนของ Nokia จึงมีอายุการใช้งานที่นาน เนื่องจากได้รับการอัปเดตเป็นประจำ ทั้งนี้ Nokia โดย HMD Global ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์มือถือที่เชื่อถือได้จาก Counterpoint Research จากคำมั่นที่ว่ามือถือ Nokia สามารถอัปเดตความปลอดภัยได้ทุกเดือนนานถึง 3 ปี ทั้งยังสามารถอัพเกรดซอฟต์แวร์ได้อีก 2 ปี ความมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้ Nokia แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ และผลักดันให้ Nokia เป็นหนึ่งในแบรนด์มือถือชั้นนำในบางตลาดในภูมิภาคนี้ บริษัทมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับธุรกิจมือถือ Nokia เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น และตลาดลูกค้าฟีเจอร์โฟนที่จะอัพเกรดมาใช้สมาร์ทโฟน เนื่องจากการเรียนออนไลน์และการทำงานจากที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ ซึ่งความปกติใหม่นี้ยังส่งผลเร่งอัตราการใช้สมาร์ทโฟน เนื่องจากผู้บริโภคต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อใช้เช็คอิน QR code ผ่านทางแอปฯ ไทยชนะ ในการติดตามการติดต่อ นอกจากนี้ การเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้อัตราการใช้งานแอปฯ อื่น ๆ เช่น โมบายแบงค์กิ้ง บนสมาร์ทโฟนมีเพิ่มมากขึ้น Nokia จึงแนะนำสมาร์ทโฟนด้วยราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคไทยทุกสาขาอาชีพ เพื่อช่วยให้ชีวิตประจำวันในทุก ๆ วันมีความสะดวกสบายขึ้น Nokia 1.4 ใหม่นี้ ไม่เพียงจำหน่ายในประเทศไทย แต่จะมีจำหน่ายทั้งในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ศรีลังกา เนปาล และฮ่องกงอีกด้วย
นอกจากการเพิ่มขนาดหน้าจอของโทรศัพท์ Nokia แบบเต็มศักยภาพและมีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดของซีรี่ย์ 1 ยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพ รวมทั้งการสแกนใบหน้าและการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยการเพิ่มกล้องมาโครเพื่อจับภาพระยะใกล้เพิ่มเติมจากการปรับปรุง AI ของGoogle บนแอพพลิเคชั่น Camera Go ให้ภาพถ่ายออกมาคมชัด และให้การสแกนต่าง ๆ โดยเฉพาะคิวอาร์โค้ดเพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งในแอปพลิเคชั่น เป๋าตังรวมทั้งใช้บริการทางการเงินผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารต่าง ๆ ง่ายขึ้น โดยทั้งหมดนี้ได้รับการพัฒนาโดย ควอลคอมม์ (Qualcomm) ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ ออกแบบตัวเครื่องด้วยวัสดุฝาหลังทำจากโพลิคาโบเนตที่ทนทาน และสวยงาม พร้อมจุดเด่นแบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานถึง 2 วัน
ด้าน ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวเสริมว่า Nokia 1.4 สมาร์ทโฟนดังกล่าวเป็นหน้าจอ HD+ ใหม่ ความละเอียด 720×1600 พิกเซล มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว แบบขอบจรดขอบ หรือ Edge-to-edge กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องคู่หลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมแอปพลิเคชั่น Camera Go ดาวน์โหลดไว้ในตัวเครื่อง สามารถถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอและถ่ายภาพในที่มีแสงน้อยออกมาได้อย่างสวยคม รวมทั้งถ่ายภาพแบบโฟกัสในระยะใกล้ ๆ ได้ชัดเจนด้วยเลนส์มาโครในตัวเครื่อง ตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนของ Nokia
ทั้งนี้ Nokia 1.4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 (Go edition) และพร้อมอัพเกรดได้ถึง Android 12 (Go Edition) ที่ให้ความเร็วและปลอดภัยในการใช้งาน และสิทธิพิเศษอัปเดตความปลอดภัยทุกเดือนได้นานถึง 3 ปี ทำให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ Nokia 1.4 ได้รับการออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm® ประมวลผลข้อมูลแบบไม่ติดขัด และการเข้าใช้งานผ่านการสแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ยังมี Built-in parental controls เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองสามารถจัดการเนื้อหาที่ดาวน์โหลดจาก Google Play Store และยังช่วยให้เด็กได้ฟัง เรียนรู้ หรือเล่น ผ่านโทรศัพท์มือถือ
“Nokia 1.4 ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันในยุคที่ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อการเช็คอินโลเคชั่นบนแอปฯ ไทยชนะ หมอชนะ ตามมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 แอปฯ เป๋าตัง ทั้งการสแกนหน้ายืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือและเยียวยาต่าง ๆ รวมถึงการโอนเงิน เติมเงิน และจ่ายเงิน ผ่านแอปฯ ของธนาคาร ช่วยให้ใช้งานแอปฯ ที่กล่าวมาได้แบบไม่ติดขัด นอกจากนี้ Nokia 1.4 ยังผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ทำให้โทรศัพท์ Nokia เป็นที่ยอมรับด้านความแข็งแรงทนทาน และยังมีจุดเด่นเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน ตอบโจทย์การเรียนออนไลน์ การทำงานผ่านวิดีโอคอล และการเล่นเกมส์หรือดูยูทูปได้ยาวนานแบบไม่สะดุด” ภราดร กล่าว
สำหรับ Nokia 1.4 เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 10 มีนาคม 2564 มีให้เลือก 2 สี คือ สี Fjord (สีฟ้า) และ สี Charcoal (สีเทาดำ) พร้อม RAM 2GB และหน่วยความจำ ROM 32GB ราคา 2,690 บาท
#Nokia #Nokia1.4 #สมาร์ทโฟนราคาเอื้อมถึง