นภาพร ไชยขันแก้ว
กองบรรณาธิการ
นับเวลากว่า 20 ปี ธุรกิจสร้างบ้านจัดสรรแบรนด์ท้องถิ่น “ดอนแก้ว วิลเลจ” ที่โลดแล่นอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิท ใช้กลยุทธ์เน้นกลุ่มลูกค้าราชการ สร้างบ้านคุณภาพ ราคา 2-3 ล้านบาท
หากกล่าวถึงบ้านจัดสรร “ดอนแก้ว วิลเลจ” กลับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่แล้ว เกือบส่วนใหญ่จะรู้จักค่อนข้างมากในปัจจุบัน เพราะด้วยราคาของบ้าน และคุณภาพการก่อสร้าง ประกอบกับทำเลที่สร้างไม่ไกลจากตัวเมืองเกินกว่า 10-25 กิโลเมตร และใกล้กับศูนย์ราชการ ที่มีหน่วยงานราชการ ศาลากลางจังหวัด กรมสรรพกร เขตที่ตั้งที่ว่าการอำเภอเมือง ประกันสังคม โรงพยาบาลนครพิงค์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี และค่ายตำรวจ ค่ายทหารที่เรียงรายตั้งแต่อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม จรดไปถึงอำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว และอำเภอฝาง
กลุ่มเป้าหมายกว่า 80 % จึงเป็นกลุ่มลูกค้าราชการ ที่มีเงินเดือนที่มั่นคง จึงทำให้การทำธุรกรรมทางด้านการเงินเพื่อขอสินเชื่อจากธนาคารได้รับอนุมัติง่ายกว่าอาชีพทั่วไป ทำให้ดอนแก้ว วิลเลจ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
เริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์
นางสาวยุพิน ทรายคำ กรรมการผู้จัดการ และเจ้าของธุรกิจ บริษัทดอนแก้ว 999 คอนสตรัคชั่น จำกัด เล่าให้ฟังในการเริ่มทำธุรกิจว่า ไม่ได้สนใจทำธุรกิจบ้านจัดสรรตั้งแต่แรก และมีฐานะค่อนข้างลำบากเนื่องจากเสาหลักบิดาได้เสียชีวิต จึงทำงานทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้ดูแลครอบครัว
จุดเปลี่ยนที่หันเหเข้ามาอยู่ในธุรกิจสร้างบ้าน เพราะเพื่อนได้ชักชวนให้มาเป็นพนักงานขายบ้านจัดสรร พีเค วิว อำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งยอมรับว่าในขณะนั้นไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย แต่ก็ยินดีที่จะเปิดใจและเรียนรู้วิธีการขาย
“ในตอนนั้นบ้านจัดสรรราคาหลังละ 3-4 แสนบาท ต่อ 50 ตารางวา ถ้าขายได้ เราจะได้ค่าคอมมิชชั่นหลังละ 3,000 บาท และเพื่อนขายเก่งมาก ส่วนเราก็เห็นว่าได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจ มองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี จึงมีความคิดต้องการออกมาทำเอง หลังจากที่ทำกับเพื่อนมา 7 เดือน”
ในช่วงเวลาที่เริ่มต้นทำธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 ค่าเงินบาทลอยตัว ธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ปิดตัวไปกว่า 50 แห่ง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรทั่วประเทศกลายเป็นโครงการร้าง ผู้ประกอบการมีหนี้สินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
มองหาบ้านจัดสรรร้าง
โครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ถูกปล่อยร้าง แต่ยุพิน และคู่ชีวิต มองเห็นโอกาสและตระเวณหาโครงการเหล่านี้ จนกระทั่งพบโครงการหมู่บ้าน แม่ริม วิลเลจ พร้อมติดต่อเจ้าของโครงการจนได้รับโอกาส
“เราขอใช้สำนักงานเดิมซึ่งตอนนั้นเฟอร์นิเจอร์เก่า และขาด แต่ก็ทำความสะอาดให้พอใช้งานได้ เราติดป้ายโฆษณาไว้ 3 ที่ ทางเข้าถนนใหญ่ ในซอย และใกล้เข้าหมู่บ้าน ส่วนเงินทุนเริ่มต้นที่หลักพัน จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เท่านั้น”
1 ปี ผ่านไปที่นั่งรอลูกค้าอยู่ในสำนักงาน ไม่มีลูกค้าแม้แต่เพียงรายเดียว แต่ด้วยความมุ่งมั่นจะทำ จึงอดทนรอ และหางานเล็กๆ น้อยมาทำในสำนักงานไปด้วย เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จนกระทั่งลูกค้ารายแรกเข้ามา ทำให้มีรายได้และกำไรก้อนแรก 85,000 บาท หลังจากนั้นก็มีลูกค้ารายที่ 2 และรายที่ 3 ตามมา และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“นึกถึงช่วงเวลานั้น การติดต่อกับธนาคารเพื่อยื่นเรื่องขอสินเชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราหน้าใหม่ ขาดประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือไม่มี จึงต้องใช้ความขยันอดทน แค่โทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรุงเทพและเชียงใหม่ต้องใช้เหรียญเป็นกำมือหยอดเหรียญในตู้โทรศัพท์สาธารณะ”
ทะยานเข้าสู่ธุรกิจบ้านจัดสรรเต็มตัว
จุดเปลี่ยนที่พลิกผันให้ ธรุกิจสร้างบ้านดอนแก้ววิลเลจ เจริญก้าวหน้าชัดเจนคือการได้มาพัฒนาโครงการหมู่บ้านดอนแก้ว วิลเลจ ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร ของ ผศ.พญ.ศรี ศรีศุกรี เป็นโครงการจัดสรร ที่สร้างไม่เสร็จ และกลายเป็นป่าไมยราพ
ยุพินได้สร้างบ้านจัดสรรและขาย ได้ 20 หลัง และทำให้หมอศรี ไว้วางใจบริหารพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม จึงเป็นที่มาของโครงการที่ 4 -5-6-7-8-9-10 -11 ตามลำดับ และได้ขยายธุรกิจไปยังจังหวัดหนองคาย และจังหวัดลำพูน
“ในตอนแรกที่ติดต่อหาหมอศรี เพื่อขอโอกาสทำงาน ท่านได้ปฏิเสธ และหลังจากเวลาผ่านไป 1 ปี เราก็โทรศัพท์ขอโอกาสอีกครั้ง ท่านฯ ให้เลขาฯ ขอดูสำเนาบัตรประชาชน ท่านฯ ก็ได้ตัดสินใจให้ทำ ซึ่งก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าอะไร” ยุพินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ชื่อเสียงของดอนแก้ววิล เลจ และพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนิ่มซี่เส็ง คุณหมอศรี ผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงินเปิดให้กู้เงินระดับหลักร้อยล้านบาท
“ธนาคารออมสินให้เรากู้ 123 ล้านบาท อีกแห่งให้กู้มากกว่า 135 ล้านบาท เราเลือกออมสิน เพราะว่าเราไม่ต้องการเสี่ยงมากเกินไป ส่วนออมสินจะให้คำปรึกษาการใช้เงินระหว่างทำงาน และใช้เงินอย่างมีเหตุมีผล จึงทำให้บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 70-80 ล้านบาทต่อปี”
ทำธุรกิจต้องซื่อตรงกับลูกค้า
การทำธุรกิจหมู่บ้านจัดสรร ของดอนแก้ว วิลเลจ เปรียบเหมือนตัวแทนขาย ที่ผู้ประกอบการไม่ต้องลงเงินทุนทั้งหมด แต่เป็นตัวกลางระหว่างสถาบันการเงินกับลูกค้า ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง บริษัทฯ จะเตรียมเอกสารลูกค้ายื่นต่อธนาคารขอสินเชื่อ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว
หลังจากลูกค้าได้รับอนุมัติแล้ว จะแนะนำให้ลูกค้าไม่สร้างหนี้เพิ่มภายใน 3 เดือน ถ้าหากเวลาดังกล่าวลูกค้าสร้างหนี้ จะทำให้สินเชื่อที่ได้รับอนุมัติลดลง นอกจากนี้จะเริ่มคุยรายละเอียดการสร้างบ้าน ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ รับฟังความคิดเห็นลูกค้า ปรับรูปแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า สิ่งที่ทำจึงแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ
“เหตุผลที่ทำให้ธุรกิจเราเจริญเติบโต เราจะไม่บวกกำไรมากเกินไป แต่เลือกสร้างบ้านคุณภาพ ออกแบบทันสมัย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่เราเพิ่มให้กับลูกค้า ก็จะคัดสรรสิ่งดี ล่าสุดได้เดินทางไปอีเกีย เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเอง นำมาใช้ตกแต่งให้กับลูกค้า ซึ่งเราสนุกกับการทำงาน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้”
ไม่หวั่นรายใหญ่
ดอนแก้ว วิลเลจ แม้จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่น (Local) ก็ตาม แต่ธนาคารออมสินก็ยกระดับให้เป็นแบรนด์เกรด AAA ที่บริหารจัดการการเงินเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญ่ เพราะไม่สร้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL และคัดสรรลูกค้าที่ดีให้กับธนาคาร
ยุพิน กล่าวถึงกรณีการแข่งขันโดยเฉพาะรายใหญ่ที่เข้ามาในเชียงใหม่เพิ่มขึ้นนั้นว่า รายใหญ่จะขายบ้านราคาค่อนข้างสูงกว่ามาก แม้ว่าคุณภาพบ้านและที่ดินจะใกล้เคียงกัน เหตุผลที่แพงกว่า รายใหญ่มีต้นทุนสูง โดยเฉพาะส่วนของการก่อสร้าง เนื่องจากต้องจ้างบริษัทฯผู้รับเหมาหลายทอด ผู้รับเหมายิ่งมากเท่าไหร่ ต้นทุนก็จะสูงขึ้น ส่วนการทำตลาดในฐานะแบรนด์ขนาดเล็ก แต่เชี่ยวชาญพื้นที่ท้องถิ่นดีกว่า และราคาบ้านที่จับต้องได้ จึงทำให้ทำธุรกิจอยู่รอดได้จวบจนทุกวันนี้
“กลยุทธ์ที่เราใช้ได้ผลและทำเรื่อยมาคือ เน้น ลูกค้าที่เป็นกลุ่มราชการกู้ได้เกิน 100 % และไม่ต้องวางเงินดาวน์ เพราะเราเข้าใจกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มรุ่นใหม่ที่เริ่มสร้างครอบครัวมีรายได้ 2 หมื่นบาท แค่เขาชำระเงินดาวน์ก็ไม่ไหวแล้ว กลยุทธ์ของเราจึงตอบสนองความต้องการลูกค้าได้จริงๆ เหมือนดั่งสโลแกน “ อบอุ่นแสนสบาย ด้วยเงื่อนไขที่ลงตัว”
เปิดโครงการ 15 สิ้นปีนี้
ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดโครงการ 14 ในอำเภอแม่ริม และลูกค้าเข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะอยู่ในช่วงโควิทก็ตาม และบริษัทฯ ได้วางแผนจะเปิดโครงการที่ 15 อีก 75 หลัง ในสิ้นปีนี้ ซึ่งอยู่ในอำเภอแม่ริม
ยุพิน ได้แนะนำสำหรับผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจสร้างบ้าน จะต้องมีความอดทน, อดกลั้นต่อปัญหา มีความหยืดหยุ่นและมองโลกในแง่ดี
#ดอนแก้ววิลเลจ #ธุรกิจสร้างบ้าน #แบรนด์ท้องถิ่น #อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ #โรคระบาดโควิด #ลูกค้าราชการ #อำเภอแม่ริม #จังหวัดเชียงใหม่แล้ว