กองบรรณาธิการ
นายสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing ของ Tik Tok กล่าวว่า ในปี 2564 Tik Tok จะเน้นการขยายตัวของผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Tik Tok ไปต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Tik Tok ในกรุงเทพฯ มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายกลุ่มดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Tik Tok ให้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
โดยปัจจุบันผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Tik Tok อายุอยู่ระหว่าง 18 ปี – 36 ปี มีสัดส่วนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ ผู้ใช้ที่มีอายุระหว่าง 13 ปี – 17 ปี มีสัดส่วนที่ 20 เปอร์เซ็นต์ และผู้ใช้ที่มีอายุมากกว่า 36 ปี มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Tik Tok ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ บริษัทฯ จะขยายฟีเจอร์จ่างๆให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ฟิตเนส เป็นต้น
สำหรับปี 2563 ถือเป็นปีที่ Tik Tok ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทั้งจํานวนผู้ใช้และการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาครวมถึงการแจ้งเกิดปรากฏการณ์การส่งต่อความสุขและแรงบันดาลใจในปี 2563 จนทำให้เกิดกระแสคอนเทนต์แนวใหม่ เช่น #TikTokUni ที่สร้างยอดวิวสูงสุดในประเทศไทยกว่า 10.7 พันล้านวิว รวมถึงการมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนและชุมชนบน TikTok ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 TikTok ได้ชวนคนไทยเปลี่ยนความ เครียดให้เป็นความสนุก ผ่านแคมเปญ # เมษา AtHome ที่ชวนคนไทยมาแชร์คลิปการกักตัวอยู่บ้านอย่างสร้างสรรค์จนมียอดวิวสูงถึง 1.9 พันล้านรวมไปถึงกระแสไวรัลที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ไวรัลแอค ชั่น อาทิ #wipeitdown มียอดวิวสูงถึง 10.4 พันล้านวิว #igogechallenge กับยอดวิวที่สูงถึง 5.9 ล้านวิวและเพลงตั้งยอดฮิตใส่ใจได้แค่มองจากศิลปิน Gx2, เพลงพักก่อนจากศิลปิน Milli และเพลงเจนนุ่นโบว์อีกทั้งการแจ้งเกิดของครีเอเตอร์หน้าใหม่และการใช้ TikTok เป็นพื้นที่ในการแสดงตัวตนของเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังมากมาย
นายสุรยศ กล่าวอีกว่า ก้าวต่อไปของ Tik Tok ในประเทศไทยจะยกระดับการสร้างการรับรู้จากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจผ่าน 3 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ต้านคอนเทนต์ การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่มอาทิ การเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมบันเทิงและดาราศิลปินในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เอ็กคลูซีฟในหลากหลายรูปแบบ และการสร้างคอนเทนต์เจาะกลุ่มที่มาแรงอาทิกลุ่มแฟนคลับรีย์ Y กลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบคอนเทนต์เทคโนโลยีและกีฬาหรือกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการดูดวงฯลฯ กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม การเปิดบริการใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้อาทิ TIkTok LIVE ที่เปิดให้ผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไปและมีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถเปิดใช้บริการ Investreaming รวมถึงการเพิ่มความยาวของคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์มเป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ที่มีผู้ติดตาม 5,000 คนขึ้นไปเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม และกลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์ โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพได้ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเข้าร่วมในแคมเปญ เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆเข้ามาเป็นครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์เช่น ความสำเร็จของแคมเปญ#TiKToKUni ที่ได้แจ้งเกิดครีเอเตอร์แนวสาระความรู้ในหลากหลายแขนง พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ในการพัฒนาวิธีการสร้างสรรค์และนำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างน่าสนใจและการเปิดบริการ TikTok Creator Marketplace ในการเชื่อมครีเอเตอร์และแบรนด์เพื่อต่อยอดโอกาสสู่การสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน TikTok
ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในด้านการเติบโตของผู้ใช้ครีเอเตอร์รวมถึงเหล่าพันธมิตรที่ให้ความสนใจในการใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์และการทำการตลาดดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z ปัจจุบันเราพบว่ากลุ่มผู้ใช้ TikTok มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของTikTokเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก เป้าหมายสำคัญที่จะทำควบคู่ไปกับการพัฒนาประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ TikTok จะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุและประเภทความสนใจสู่เป้าหมายการสร้างแพลตฟอร์มให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทยควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ชุมชนที่ปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ครีเอเตอร์และพันธมิตรแบรนด์ตลอดไป