ไมโครซอฟท์ จับมือพันธมิตร บริษัท งานใหญ่ เสริมทับเอสเอ็มอีด้วย Power BI

กองบรรณาธิการ

บรรยายภาพ: นายจำรัส สว่างสมุทร (ที่ 2 จากซ้าย), นางสาวชนิกานต์ โปรณานันท์ (ที่ 2 จากขวา), ผู้บริหาร จากบริษัท งานใหญ่ จำกัด (ซ้ายสุด) และ นางสาวจิรพรรณ บุญหนุน (ขวาสุด)

ไมโครซอฟท์ พร้อมสนับสนุนเอสเอ็มอีผ่านพันธมิตร ในการจัดสัมมนา เพื่อกระตุ้นและสนับสนุนเอสเอ็มอี มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำธุรกิจมากขึ้น ผ่านการสัมมนา การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจทางธุรกิจ SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนและตัดสินใจในการทำธุรกิจได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น และการสัมมนาในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติ จากนายจำรัส สว่างสมุทร มาให้ความรู้ในการบรรยายเรื่อง วิธีการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและปฎิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ไม่ว่าขนาดใดมองหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ระยะที่ต้องสู้กับโควิด แต่ยังต้องตอบโจทย์ระยะยาว เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ สร้างความสามารถในการปรับตัวโดยใช้เทคโนโลยี ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องมาเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี รวมทั้งต้องหาเพื่อนคู่ใจหรือพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยี เพื่อที่จะมาช่วยดูแลให้ข้อมูล เป็นเพื่อนคู๋คิดในการทำ digital transformation ซึ่งหวังว่างานนี้ จะช่วยเปิดทางให้กับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ได้เข้าถึงเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ได้ง่ายและมั่นใจยิ่งขึ้น

นายจำรัส สว่างสมุทร ผู้อำนวยการใหญ่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันสิ่งที่เอสเอ็มอี ควรที่จะเรียนรู้ คือ New normal เนื่องจากผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับการใช้ดิจิทัลมากขึ้น มีการสำรวจของประเทศเอเชียแปซิฟิก ที่ชี้ให้เห็นว่า เริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ผ่านโลกดิจิทัล

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค จากการสำรวจรายงานว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศมีมากขึ้น เช่น สินค้าอาหาร และผู้บริโภคสนใจในคุณภาพของสินค้าในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้พฤติกรรมของลูกค้ามีการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคยอมรับในการสมัครสมาชิก (Subscription) มากขึ้น ดังนั้นเอสเอ็มอี จะต้องปรับตัวในการหารายได้ในรูปแบบของรายได้ที่เกิดซ้ำโดยมีการเปลี่ยนบิซิเนสโมเดล (New business model) เปลี่ยนความคิดในการทำธุรกิจเพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถอยู่รอดได้ อาทิ การเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจโดยเปลี่ยนจากการขายเป็นการให้บริการ เช่น เปลี่ยนจากการขายมาเป็นการเช่าใช้รายเดือน เท่ากับได้ลูกค้ารายเดิมที่ซื้อซ้ำ ใช้โซเชียลมีเดียมาช่วยในการทำธุรกิจ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเทคนิคในการขายออนไลน์ ที่เรียกว่า เพื่อนแนะนำเพื่อนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และยังมีขายสินค้าในรูปแบบของ Product Centric  คือให้ความสำคัญกับสินค้า เช่น สินค้ามีความเก่ง มีความสวยงามอย่างไร และให้ความสำคัญกับลูกค้า หรือ Consumer Centric ทำให้ลูกค้าสามารถมาซื้อสินค้าซ้ำ และการซื้อขายในรูปแบบ Human Centric ที่ขายความเชื่อและขายแบรนด์สินค้า เป็นต้น

นายจำรัส กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการขายมากขึ้นในรูปแบบ Digitalization คือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและขายสินค้าทำให้สามารถได้เปรียบธุรกิจแบบดั้งเดิมที่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เนื่องจากการนำเทคโนโลยีมาช่วยทำธุรกิจทำให้เกิดการตัดพ่อค้าคนกลาง ทำให้สามารถขายสินค้าเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ดังนั้นเอสเอ็มอีจะต้องมีการเพิ่มทักษะทางด้านเทคโนโลยีหรือ Digital skill เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และช่วยในการเข้าถึงลูกค้าและเครื่องมือในการเข้าถึงลูกค้าที่เรียกว่า Social listening ทำให้เจ้าของธุรกิจและธุรกิจสามารถทราบได้ว่าในโลกโซเชียลมีเดีย ลูกค้ามีการพูดถึงสินค้าในปัจจุบันอย่างไรทำให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีแพลตฟอร์มและมีบริการให้กับธุรกิจที่ต้องการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การทำตลาดในยุคดิจิทัล เช่น การให้การอบรมสัมมนา รวมถึง การให้บริการ Fast track ในการขอเงินกู้กับธนาคารได้รวดเร็วมากขึ้น รวมถึงการให้คำปรึกษาในการปรับปรุงสินค้าโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและมีโอกาสในการทำตลาดมากยิ่งขึ้นรวมถึงทำให้ธุรกิจสามารถที่จะแข่งขันทางธุรกิจได้ เป็นต้น

“สภาอุตสาหกรรมเองก็มีการปรับตัวในการเอาเทคโนโลยีมาช่วยสมาชิก สำหรับเอสเอ็มอีการที่จะเอาข้อมูลมาใช้ไม่ใช่เรื่องยาก มีเครื่องมืออยู่แล้วสามารถที่จะเอามาใประโยชน์ได้เพียงแต่จะต้องเอาข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อที่จะทำให้สามารถรู้ว่าจะขายสินค้าให้ใคร ขายอะไรเมื่อไหร่ จะทำให้คุณสามารถแข่งขันได้” จำรัส กล่าว

นายชัญญาเชษฐ์ เบญจณัฐกัณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท งานใหญ่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้บริการติดตั้ง (Implement) ระบบ Microsoft Business Intelligence หรือ BI มาช่วยในการทำธุรกิจ และในการสัมมนาในครั้งนี้ สิ่งที่ได้นำเสนอให้กับเอสเอ็มอี คือ เทคโนโลยี Microsoft Power BI เพื่อรองรับเอสเอ็มอีที่ต้องการการทำงานที่ง่ายและครบวงจรมากขึ้น

สำหรับเป้าหมายในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวซอฟต์แวร์แพคเกจ เพื่อเป็นโซลูชั่น e-market place สำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการขายสินค้าผ่านออนไลน์บนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ เพื่อตอบโจทย์เอสเอ็มอีได้อย่างครบวงจร

นางสาวจิรพรรณ บุญหนุน ผู้ก่อตั้ง เว็บไซต์ Thai-SMEs กล่าวว่า งานสัมมนาในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากความร่วมมือของหลายฝ่าย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อส่งเสริมการสร้างธุรกิจอย่างก้าวกระโดดให้กับเอสเอ็มอี พร้อมต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ง่ายขึ้นในยุคที่ต้องปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง สร้างความเข้มแข็งและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ต้องขอขอบคุณไมโครซอฟท์ในความร่วมมือในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าด้วยเทคโนโลยีและโซลูชั่นของไมโครซอฟท์และพันธมิตร จะช่วยสร้างความเติบโตให้ธุรกิจเอสเอ็มอีได้อย่างโดดเด่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

#ไมโครซอฟท์ #บริษัทงานใหญ่ #เอสเอ็มอี #PowerBI #BI

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share