ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มัดรวมสูตรสำเร็จ EcoStruxure IT ปี 2024 พร้อมเจาะลึกพัฒนาการก้าวต่อไป ในปี 2025

กองบรรณาธิการ

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สำหรับการบริหารจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ เปิดเผยถึงความสำเร็จของเส้นทางในการพัฒนา EcoStruxure IT ในปีที่ผ่านมา พร้อมแผนงานปี 2025 ว่ายังคงมุ่งเน้นที่การช่วยให้ลูกค้าใช้ซอฟต์แวร์ Data Center Infrastructure Management (DCIM) อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และยั่งยืนมากที่สุด ในทุกที่ ท่ามกลางความท้าทายที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนของการใช้งานไฮบริดไอที นับเป็นโอกาสดีที่จะหันมาทบทวนว่า EcoStruxure IT ช่วยให้องค์กรลูกค้าเติบโตอย่างไรบ้าง และระบบของเราช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีมีความยืดหยุ่น ปลอดภัยและยั่งยืนอย่างไรบ้าง

การอัปเดตและพัฒนาต่อเนื่องเพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้ระบบมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างความสำเร็จบางส่วนในการดำเนินการปีที่ผ่านมา ซึ่งทีมงาน EcoStruxure IT ได้มีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งสำหรับการใช้งานแบบ On-Premise และ Cloud-Based เพื่อช่วยให้การดำเนินงานของลูกค้าง่ายขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น ได้แก่

• นโยบายในการแจ้งเตือน (alarm threshold policies) ใน IT Expert สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนโดยใช้เงื่อนไขขั้นสูง เช่น กำหนดให้แจ้งเตือนหากอุณหภูมิสูงเกิน 25 องศาจากค่าปกตินานเกิน 30 นาที ช่วยลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นและทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น

• วิดเจ็ต Service Contracts and Visits บนแดชบอร์ดของ IT Expert ช่วยให้องค์กรดูภาพรวมของอุปกรณ์ทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว พร้อมแจ้งให้ทราบว่าอุปกรณ์ใดอยู่ภายใต้สัญญาบริการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการอัปเดตทุกสัปดาห์

• การบันทึกเหตุการณ์ (Windows event logging) สำหรับ PowerChute ช่วยให้สามารถบันทึกทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบได้ โดยจะรวบรวมข้อมูลไว้ที่ส่วนกลางเพื่อให้สามารถติดตามเหตุการณ์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับ Syslog สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการส่งบันทึกเหตุการณ์ไปที่ Syslog Server ส่วนกลางได้ด้วย

• ขยายการรองรับ PowerChute vCLS สำหรับทุกการตั้งค่า UPS ช่วยให้เลือกปิดระบบเฉพาะส่วนที่จำเป็นได้อย่างยืดหยุ่น

• รองรับ LDAP (Lightweight Directory Access Protocol) บน Network Management Card (NMC) ช่วยให้ลูกค้าสามารถตั้งค่าอุปกรณ์เพื่อใช้ LDAP Server เพื่อยืนยันตัวตนได้จากระยะไกล เช่นในการใช้ Microsoft Active Directory และ OpenLDAP

• PowerChute Network Shutdown สามารถตั้งค่าให้รันคำสั่งบนระบบได้จากระยะไกล เช่น Storage Array หรือ Backup Server ผ่านการเชื่อมต่อ SSH ซึ่งให้ประโยชน์ในการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลหรือระบบอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ที่อาจจำเป็นต้องปิดระบบให้เรียบร้อย พร้อมกับอุปกรณ์ที่เหลืออื่นๆ

• การรวมศูนย์ Syslog ของ Data Center Expert จากหลากหลายระบบ ช่วยให้จัดการเรื่องการบันทึกเหตุการณ์ในระบบได้ง่ายขึ้น

เหล่านี้ คือการดำเนินการสำหรับลูกค้าในปีที่ผ่าน ด้วยการอัปเกรดและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีทำงานได้ประสิทธิภาพมากขึ้น จัดการได้ง่ายขึ้น

ปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง

ความปลอดภัยทางไซเบอร์คือสิ่งที่อุตสาหกรรมให้ความสำคัญมานาน และองค์กรธุรกิจ ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น การรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ปลอดภัยเป็นงานที่ท้าทายและมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงทำให้ทีมงาน EcoStruxure IT เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้

ด้วยการใช้งานยูพีเอสและตู้แร็คจำนวนนับหลายพันในดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งแต่ละเครื่องมีรหัสผ่านเพื่อรักษาความปลอดภัย การดูแลเรื่องเหล่านี้ จึงเป็นงานที่ยากและท้าทายมาก โดยปัจจุบัน IT Expert มีตัวเลือกให้สามารถตั้งค่าเพื่อเชื่อมต่อและเปลี่ยนรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านของทุกอุปกรณ์ได้พร้อมกันทีเดียว จึงช่วยองค์กรลดเวลาในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งสามารถดำเนินการระยะไกลผ่านระบบคลาวด์ได้

ในทำนองเดียวกัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เพิ่มความปลอดภัยให้กับ Data Center Expert โดยเปลี่ยนโปรโตคอลการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และ DCE จาก SNMPv1 เป็น SNMPv3 ได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าเรียกร้อง และบริษัทฯ ยินดีที่ได้ช่วยให้ทำเรื่องนี้เป็นจริง

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการประกาศว่าแพลตฟอร์ม EcoStruxure IT NMC ได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานอิเล็กทรอนิกส์ (IEC) และในเดือนตุลาคม ยังได้ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรม ว่า NMC ของเราได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับสูง จน กลายเป็น DCIM NMC ตัวแรกที่ได้รับการรับรอง IEC 62443-4-2 Security Level 2 (SL2) จาก IEC

ชไนเดอร์ อิเล็คทริคมุ่งเน้นความสำคัญเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างจริงจัง และการรับรองที่ยกระดับไปอีกขั้นจากหน่วยงานอิสระช่วยยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของผู้จำหน่ายรายนั้นๆ ที่ออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูลและสภาพแวดล้อมไอทีแบบกระจายศูนย์ ผ่านการทดสอบและประเมินเรื่องความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ เรายังได้รับการรับรองว่ากระบวนการพัฒนาของเราสอดคล้องตามมาตรฐาน ISASecure® Secure Development Lifecycle Assurance (SDLA) อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังช่วยบริษัทต่างๆ แก้โจทย์ที่เป็นปัญหาท้าทายในการตามอัปเดตเฟิร์มแวร์ โดยระบบ EcoStruxure IT Secure NMC System (SNS) ช่วยจัดการเรื่องของเฟิร์มแวร์ได้ในตัวด้วยเครื่องมือใหม่เฉพาะสำหรับดูแลเรื่องนี้  ซึ่ง SNS Tool ช่วยลดกระบวนการที่ยุ่งยากในการค้นหาและติดตั้งเฟิร์มแวร์ล่าสุดบนอุปกรณ์ทั้งหมด ช่วยให้ดำเนินการได้เร็วขึ้นถึง 90%

ในแง่ของความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยังมีการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์เหนือชั้นไปอีกขั้น ด้วยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมการรับรองมาตรฐานถึงสองรายการ ช่วยให้ลูกค้าจัดการและอัปเดตระบบได้สะดวกและง่ายดายขึ้น

การรายงานความยั่งยืนรูปแบบใหม่ด้วยระบบอัตโนมัติ

หนึ่งในการพัฒนาที่น่าจับตามองที่สุด ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก คือการที่ทีม EcoStruxure IT ได้นำเสนอฟีเจอร์การออกรายงานด้านความยั่งยืนแบบใหม่ด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ล้ำหน้าของสายผลิตภัณฑ์ EcoStruxure IT ที่ช่วยให้องค์กรสามารถคำนวณและรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืนได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ต้องเสียเวลานั่งทำเองนานๆ ขุมพลังของ AI ช่วยให้องค์กรควบคุมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมภายในดาต้าเซ็นเตอร์

ฟีเจอร์การรายงานใหม่ที่ผ่านการปรับปรุงและพัฒนา และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากอุตสาหกรรม เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ EcoStruxure IT ทุกคนตั้งแต่เดือนเมษายนในปีที่ผ่านมา ก่อนที่ข้อบังคับด้านประสิทธิภาพพลังงานของสหภาพยุโรป (Energy Efficiency Directive หรือ EDD) จะมีผลบังคับใช้ เนื่องจาก EED เรียกร้องให้ประเทศในสหภาพยุโรปลดการใช้พลังงานพร้อมรายงานข้อมูลตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักของดาต้าเซ็นเตอร์ เพราะความยั่งยืนคือหนึ่งในวิธีที่ช่วยจำกัดการใช้พลังงาน ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน และลดของเสียในดาต้าเซ็นเตอร์ ทำให้ DCIM มีบทบาทสำคัญมาก และชไนเดอร์ อิเล็คทริคก็เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงเข้ามาช่วยลูกค้าจัดการทรัพย์สินไอที อีกทั้งให้การสนับสนุนเรื่องการรายงานที่สอดคล้องตามกูฏข้อบังคับ

ที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเราได้ดำเนินโครงการ Green IT ร่วมกับทีม CIO และพบว่าเครื่องมือต่างๆ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานได้ง่ายเสมอไป ทำให้ไม่สามารถจัดการกับข้อมูลได้ตามต้องการ และบางครั้งข้อมูลก็ไม่สมบูรณ์ เรื่องนี้ จึงเป็นแรงขับเคลื่อน ให้เราสร้างการเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์จากเรื่องนี้ ก็คือการที่เราออกมาตรวัดการรายงานความยั่งยืนแบบใหม่ ที่ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามความท้าทายในการออกรายงานความยั่งยืน เพื่อช่วยให้จัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มุมมองของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สำหรับปี 2025

เป็นการมองไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น เพราะที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เรามั่นใจว่าทีม EcoStruxure IT จะยังคงสร้างนวัตกรรมและต่อยอดจากความสำเร็จขึ้นไปอีก ด้วยการตระหนักดีว่า สภาพแวดล้อมไอทีแบบไฮบริดจะทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเวลาที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในดาต้าเซ็นเตอร์ เป้าหมายหลักของเรามีความชัดเจนมาก นั่นคือการสนับสนุนและเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าเตรียมพร้อมในการรับมือกับทุกความท้าทาย พร้อมกับภารกิจในการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที ที่มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และยั่งยืนที่สุดในทุกที่ ทุกเวลา

#ชไนเดอร์อิเล็คทริค #EcoStruxureITปี2024 #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share