กรุงศรี ฟินโนเวต ปี 68 เล็งทุ่ม 520 ลบ.เดินหน้าดันสตาร์ทอัพในอาเซียน ตั้งเป้า 8 ปี ลงทุนผ่านกองทุน FinnoEfra มูลค่า 1 พันลบ.โต 25%

กองบรรณาธิการ

ปาลิดา อธิศพงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ และ Head of Portfolio Growth บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวต ยังคงมุ่งผลักดัน Startup Ecosystem ทั้งในไทยและในภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตในทุกช่วงอย่างแข็งแกร่ง ในปีนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต จะให้น้ำหนักการลงทุนในสตาร์ทอัพอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในส่วนของความร่วมมือ (Partnerships) จะได้เห็นความร่วมมือในต่างประเทศมากขึ้น จึงนับได้ว่าเป็นการขยายศักยภาพและความเชี่ยวชาญของกรุงศรี ฟินโนเวต ออกไปในระดับภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น เพื่อปูทางสู่เป้าหมายสำคัญในการเป็น Venture Capital ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารกรุงศรี

ปาลิดา กล่าวต่อว่า ในปี 2568 กรุงศรีฟินโนเวต มีแผนลงทุนผ่าน  3 กองทุนหลัก ประกอบด้วย กองทุน Fonnoventure จำนวน 400 ล้านบาท โดยจะลงทุนใน 6 สตาร์ทอัพ ทั้งในประเทศไทย เวียดนามอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังลงทุนผ่านกองทุน Finnoverse จำนวน 70 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นสตาร์ทอัพที่รองรับธุรกิจในอนาคต อาทิ ESG, กรีนเทค, AI และ ไซเบอร์เชเคียวลิตี้

และลงทุนในกองทุน FinnoEfra จำนวน 50 ล้านบาท โดยกองทุน FinnoEfra เป็นกองทุนใหม่ที่เริ่มลงทุนในปี 2568 มีระยะเวลาการลงทุน 8 ปี ด้วยงบการลงทุนทั้งหมด ที่ 1,000 ล้านบาท โดยจะมุ่งลงทุนกับสตาร์ทอัพใหม่ที่มีสินค้าและบริการในตลาดแล้ว จนถึงสตาร์ทอัพที่กำลังจะเข้าสู่ Pre-series A นอกจากนี้ยังจะมุ่งเป้าการลงทุนไปที่ เซกเตอร์ด้านดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น โดยคาดว่าในระยะ 8 ปี จะเป็นการลงทุนในประเทศไทย 60 เปอร์เซ็นต์และ ประเทศต่างๆในอาเซี่ยน 40 เปอร์เซ็นต์ มีงบการลงทุนบริษัทละ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ – 2 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการจัดงานเพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพ 3-4 ครั้งในระยะเวลา 8 ปี คาดว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนต่อปี 25 เปอร์เซ็นต์

สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา กรุงศรี ฟินโนเวต ได้สร้างโอกาสทางธุรกิจแก่สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพผ่านการสร้างสรรค์อีโคซิสเต็มที่เหมาะสมต่อการเติบโตและขยายโอกาสทางธุรกิจ ไม่เพียงแค่ในด้านฟินเทค แต่ยังรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืน ด้วยเห็นถึงพลวัตเศรษฐกิจที่การบูรณาการอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทั้งในระดับธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม โดยปีที่ผ่านมากรุงศรี ฟินโนเวต ได้เปิดตัวโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทย

“Finno Efra Accelerator Program ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงศรี ฟินโนเวต กับ อีฟราสตรัคเจอร์ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับสตาร์ตอัปรุ่นใหม่ โดยได้รับเกียรติจากเมนเทอร์และโค้ชผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งใน Batch 1 มีสตาร์ตอัป 12 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก จากราว 200 สตาร์ทอัพที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยหลังจากที่ทั้ง 12 ทีมผ่านการเข้าเรียนกว่า 30 คลาสในช่วงสี่เดือน เราจึงได้จัดให้ทั้ง 12 ทีมได้มีโอกาสนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ บริษัท นักลงทุน เปิดโอกาสให้เกิดการต่อยอดการลงทุน และนี่คืออีกความภูมิใจของเราที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถสร้างธุรกิจได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน” ปาลิดา กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลจะโอกาสไปร่วมงานสัมมนาเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้แก่  Viva Technology (ปารีส, ฝรั่งเศส)  InnoVEX (ไทเป, ไต้หวัน) และ NextRise (โซล, เกาหลีใต้)

ปัจจุบัน กรุงศรี ฟินโนเวต มีเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 4,039 ล้านบาท หรือราว 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการลงทุนใน 25 สตาร์ทอัพ รวมถึง 4 ยูนิคอร์น ได้แก่ Grab, Flash Express, Klook และ Ascend Money และมีหลายสตาร์ทอัพที่อยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

สำหรับในส่วนกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ (Finnoventure Private Equity Trust I) ที่มีขนาดกองทุน 2,700 ล้านบาท และลงทุนในสตาร์ทอัพ Series A ขึ้นไปนั้น ลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 1,731 ล้านบาท โดยมีการลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งหมด 15 ราย และในปี 2568 มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในสตาร์ทอัพ 6 ราย ขณะที่กองทุนฟินโนเวิร์ส และฟิวเจอร์ริสติก (Finnoverse & Futuristic Fund) มียอดการลงทุนไปแล้ว 475 ล้านบาท มีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมราว 70 ล้านบาทในปีนี้ และคาดว่าในปีนี้จะมีการลงทุนในกองทุนฟินโนอีฟรา ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ (FinnoEfra Private Equity Trust) ที่เน้นลงทุนในสตาร์ทอัพกลุ่ม Seed ถึง Pre-series A

“ปีนี้นับเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา เราเห็นโอกาสในการสร้างอิโคซิสเต็มที่ช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งให้กับสตาร์ทอัพของไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งกรุงศรี ฟินโนเวต จะได้ใช้ความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นหัวเรือหลักในการมอบโอกาสแก่สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพได้เติบโตอย่างยั่งยืน” ปาลิดา กล่าว

#กรุงศรีฟินโนเวต #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share