ไปรษณีย์ไทย เปิดบริการ ดี-ไอ-ดีโซลูชันเพื่อชีวิตคนไทยที่ปลอดภัย จากภัยไซเบอร์

กองบรรณาธิการ

ในวันที่โลกเดินทางมาถึงยุคไซเบอร์อย่างรวดเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าความล้ำสมัยของเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการติดต่อสื่อสาร การขนส่ง – โลจิสติกส์ การศึกษา ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ตลอดจนถึงการดำเนินธุรกรรมออนไลน์ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คน

และด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ข้อมูลสำคัญเข้าไปอยู่บนระบบต่าง ๆ ตามไปด้วย เนื่องจากจำเป็นจะต้องกรอกทั้งข้อมูลส่วนบุคคล/ ที่อยู่ เพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องที่น่ากังวลเกี่ยวกับการเกิดปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่คาดคิดและอาจนำมาสู่การเกิดภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต หรืออาชญากรรมไซเบอร์

จากแนวโน้มของภัยไซเบอร์ และการตั้งคำถามด้านความปลอดภัยจากหลายภาคส่วน ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ตระหนักถึงการสร้างเกราะคุ้มภัยเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันในทุกมิติ ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญในการยกระดับความปลอดภัย การคุ้มครองข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการและประชาชน โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ/ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ e-Commerce Platform และได้ผลักดันให้เป็นวาระระดับชาติ พร้อมให้บริการ 

• D/ID เกราะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตลอดเส้นทางขนส่งของไปรษณีย์ไทย สะดวก – ปลอดภัยข้อมูลไม่รั่วไหล ปกติในการส่งพัสดุหรือจดหมาย สิ่งที่ต้องทำคือเขียนหรือพิมพ์ข้อมูล ซึ่งประกอบไปด้วยชื่อ – ที่อยู่  ผู้รับและผู้ส่ง เบอร์โทรศัพท์ รหัสไปรษณีย์ แต่ในอนาคตที่กำลังจะก้าวสู่สังคมและเศรษฐกิจดิจิทัล ข้อมูลเหล่านี้จะไม่ต้องถูกกรอกแบบเดิมอีกต่อไป เพราะไปรษณีย์ไทยได้พัฒนา ดีไอดี: D/ID หรือ Digital Post ID ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการจ่าหน้าแบบใช้รหัสให้เป็นรูปแบบดิจิทัล ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ โดยข้อมูลที่อยู่ผู้ส่ง – ผู้รับจะถูกแปลงเป็นรหัส 6 หลัก (ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข) เพื่อบอกตำแหน่งพิกัดที่อยู่ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเขียนรหัส 6 หลัก นี้บนหน้ากล่องพัสดุ หรือแจ้งรหัส 6 หลักกับเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการฯ เพื่อแปลงเป็น QR code แปะลงบนหน้ากล่องพัสดุได้เช่นกัน

หลักการทำงานของบริการ D/ID นั้นต่อยอดมาจากการใช้รหัสไปรษณีย์ 5 หลัก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการส่งเอกสารและพัสดุ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นพิกัดที่ตั้งบนพื้นผิวโลก และใช้หลักการทำงานเดียวกันกับระบบการหาตำแหน่งทั่วโลก หรือ Global Positioning System : GPS ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการเซตระบบการขนส่งพัสดุ – ไปรษณียภัณฑ์ที่ล้ำสมัยอย่างมาก             เพราะ QR code นี้จะมาช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในระหว่างการจัดส่งสิ่งของ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย นอกจากนี้ QR code ดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว และมีเพียงผู้รับและเจ้าหน้าที่                   ไปรษณีย์ไทยเท่านั้นที่สามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลจ่าหน้าที่มีข้อมูลที่อยู่ผู้รับและผู้ส่งได้ จึงคลายข้อกังวลหากบุคคลอื่นหรือมิจฉาชีพมาสแกนขโมยข้อมูล และ D/ID ยังสามารถบ่งชี้พิกัดในแนวดิ่ง  ทำให้สามารถระบุที่อยู่ของผู้ใช้บริการที่อาศัยในอาคารสูง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบุได้เพียงพิกัดของสถานที่ในแนวราบเท่านั้น

สำหรับในปี 2568 บริการ D/ID จะถูกเริ่มนำมาเป็นทางเลือกในการขนส่งในช่องทาง ของไปรษณีย์ไทย แต่ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่การจ่าหน้ารูปแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด จึงเชื่อมั่นได้ว่า บริการ D/ID จะเป็นตัวกระตุ้นให้สตาร์ทอัพ นักพัฒนาเทคโนโลยีเกิดความสนใจที่จะสร้างโซลูชันที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลง และความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พร้อมปูพรมให้คนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญ กับการป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล – การรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงและความท้าทายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้

“ไปรษณีย์ไทยเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่นเดียวกันกับองค์กรชั้นนำของไทยและของโลก โดยการพัฒนาโซลูชัน D/ID สอดรับกับเป้าหมาย ESG ในมิติของ Governance ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาล และยังเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนที่ช่วย ติดความพร้อมในการก้าวสู่การเป็น Information Logistics อย่างเต็มรูปแบบ

 #InformationLogistics #ไปรษณีย์ไทย #บริการดี-ไอ-ดี #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share