กองบรรณาธิการ
สมูทอีทุ่ม 200 ล้าน พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ภายใต้จุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ตอกย้ำการเป็นผู้นำเวชสำอางจากธรรมชาติที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากกว่า 30 ปี ส่งพอร์ตสกินแคร์เพื่อผิวบอบบางสวยสุขภาพดี พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมแรก สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน และเปิดตัวนิวเฟซออฟสมูทอี ขยายฐานสู่ Gen Z
สมูทอี โดยบริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับผิวบอบบางมียอดขายอันดับ 1 ในร้านขายยา ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 เดินหน้าเปิดตัวพอร์ตนวัตกรรมสกินแคร์เพื่อผิวบอบบางสวยสุขภาพดีครบวงจรใน 3 สเต็ปง่าย ๆ ล้าง บำรุง และปกป้อง ประเดิมส่ง สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน เซรั่มกันแดดเจนใหม่ที่ผสานคุณค่าจากวิตามินแอสตาแซนธิน ไม่ใช่แค่กันแดดแต่ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระจากแดดครั้งแรกในเมืองไทยวางตลาดในเดือนมกราคมนี้ พร้อมเปิดตัว “หลิง-ออม” นิวเฟซออฟสมูทอีคู่ใหม่สร้างการมีส่วนร่วมในกิจกรรมตลอดปีมัดใจผู้บริโภคทุกเจนตั้งแต่ Gen X, Gen Y และขยายฐานสู่ Gen Z
นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมูทอี บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สมูทอี เป็น Medical Skincare หรือแบรนด์เวชสำอางที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์สมูทอีวางจำหน่ายในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ 1991 หรือกว่า 33 ปีมาแล้ว มีนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวคนไทยสวยสุขภาพดีอย่างแท้จริง เช่น โฟมไม่มีฟอง ครีมลดรอยแผลเป็น กันแดดไร้เคมี เข้าใจความต้องการของ ผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ใจร้อนอยากเห็นผลไวจนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง สมูทอีจึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลจริง อ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว พร้อมเปิดตัวนวัตกรรม เวชสำอางสมูทอี เพื่อผิวบอบบาง 3 สเต็ป ภายใต้จุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ซึ่งเป็นสิ่งที่สมูทอียึดมั่นมาโดยตลอด โดยการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมโดยกลุ่มทีมงานเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและยาของสมูทอี มีแพทย์ผู้เป็นเชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากมีผิวสวยสุขภาพอย่างปลอดภัย
จากเทรนด์ผู้บริโภคสู่การรุกตลาดเวชสำอางเต็มสูบ
จากการสำรวจทัศนคติและการใช้งานสกินแคร์ของผู้บริโภคชาวไทย พบว่า ผู้บริโภคไทยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ มีผิวที่บอบบาง ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ได้มีความต้องการแค่ผลิตภัณฑ์ที่บรรเทาอาการแพ้ แต่ยังต้องการมีผิวสวยสุขภาพดีอย่างแท้จริงนอกจากนี้ เทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ตลอดจนการแชร์ความรู้โดยแพทย์ผิวหนัง และคลินิกเสริมความงาม มีการเติบโตสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สมูทอีเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่ง สร้างความคึกคักให้กับตลาดผลิตภัณฑ์เวชสำอาง หรือ เดอร์มาสกินแคร์ในประเทศไทยที่มีมูลค่า 15,522 ล้านบาทและเติบโต 15 ในปี 2567 โดยบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 17 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 9 เปอร์เซ็นต์ มีสัดส่วนรายได้จากออฟไลน์ 70 เปอร์เซ็นต์และออนไลน์ 30 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามในปี 2567 บริษัทมียอดขายจากออนไลน์โตขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ล้างหน้า 50 เปอร์เซ็นต์ ซีรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ 35 เปอร์เซ็นต์ เและลบริ้วรอย 15 เปอร์เซ็นต์และในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์มีสัดส่วนการตลาดที่ 9.7 เปอร์เซ็นต์
นายธนชัย กล่าวต่อไปว่า ในปี 2568 สมูทอีมีนโยบายในการเปิดเกมรุก 3 กลยุทธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเจนและได้จัดสรรงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทเดินหน้า 3 กลยุทธ์หลักรุกตลาดเวชสำอาง โดยกลยุทธ์แรก มุ่ง เปิดตัวจุดยืนใหม่ “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ด้วยการนำเอาความเชี่ยวชาญของสมูทอีกว่า 30 ปีมาสร้างสรรค์นวัตกรรมสกินแคร์ที่เป็น The Right Solutions อ่อนโยนแต่เห็นผลจริงพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยที่มีผิวบอบบางทุกเจนอย่างลงตัว
เภสัชกรศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า เนื่องจากเทรนด์ในการดูแลผิวที่เรียกว่า เอสเซนเชียลแคร์เป็นการดูแลที่มุ่งเน้นจุดที่สำคัญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผิว สมูทอีจึงเร่งเครื่องกลยุทธ์ที่ 2 นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อผิวบอบบางครบจบใน 3 สเต็ป ล้าง บำรุง และปกป้อง เพื่อผิวสวยสุขภาพดี โดยได้เปิดตัวนวัตกรรมตัวแรก สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน นวัตกรรมเซรั่มกันแดดเจนใหม่ บางเบา ล็อกผิวเด็ก มีส่วนผสมของแอสตาแซนธินครั้งแรกในประเทศไทย
สมูทอี ซัน แอสตาแซนธิน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเซรั่มกันแดดทั่วไป เนื่องจากไม่ใช่แค่เพียงกันแดด แต่ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระจากแดด โดยมีสารสำคัญของแอสตาแซนธิน สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่ได้รับการยกย่องว่า เป็น King of Antioxidation ช่วยต้านอนุมูลอิสระออกฤทธิ์ได้ดีกว่า Vit C ถึง 6,000 เท่า พร้อมส่วนผสมสำคัญ ไบโอเรตินอล กลูตาไธโอน ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับใช้ทุกวันและในหน้าร้อน โดยเริ่มจำหน่ายในขนาด 15 มล. ราคา 600 บาท ขนาด 30 มล. ราคา 1,200 บาท ในเดือนมกราคมนี้ ในร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
นอกจากการเปิดตัวสมูทอี ซัน แอสตาแซนธินนี้ สมูทอี ยังมุ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์เอสเซนเชียลแคร์ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ยังมีแผนขนทัพนวัตกรรม สมูท อี นัน ไอออนนิก พีเอช ไฟว์ นิวเจน โฟมล้างหน้าสูตรไม่มีฟองใหม่ แต่มีส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส และคุมมันได้ดี พร้อมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมใช้เซรั่ม เพื่อเร่งผลลัพธ์ให้ผิวสุขภาพดี สมูทจึงได้เปิดตัว สมูทอี คลินิกคัล เซรั่ม มี 4 สูตร ได้แก่ สูตรลดรอยสิว สูตรผิวกระจ่างใส สูตรลดริ้วรอย และสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผู้บริโภคดูแลผิวหน้าได้ง่าย ๆ ที่บ้านใน 3 สเต็ป ล้าง บำรุง และปกป้อง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สมูทอีทั้ง 3 กลุ่มยังเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ตอกย้ำนโยบายด้านความยั่งยืนของสมูทอี
เภสัชกรศุภาพิชญ์ กล่าวเสริมว่า นอกจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมุ่งเดินหน้ากลยุทธ์ที่ 3 สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ด้วยการเชิญ หลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง และ ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ สองนักแสดงสาวดาวรุ่งมาเป็น นิวเฟซ ออฟ สมูทอี เนื่องจากหลิงเป็นคนที่มีเสน่ห์และมั่นใจ ส่วนออมก็มีมีความอ่อนโยนและสนุกสนาน หลิง-ออมจึงเป็นคู่ดาราที่สะท้อนจุดยืน “อ่อนโยน…มีประสิทธิภาพเห็นผล” ของสมูทอีได้อย่างลงตัว โดยประเดิมด้วยกิจกรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Meet The New Face of Smooth E ที่นี่ในช่วงเย็นวันนี้ พร้อมทั้งเราจะมีกิจกรรมการตลาดร่วมกับหลิง-ออม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคทุกกลุ่มตลอดทั้งปี
หลิง-ออม ประเดิมงานแรกด้วยสื่อโฆษณาที่โดนใจ ถ่ายทอดอินไซต์ของผู้บริโภคที่มีผิวบอบบาง ด้วยข้อความว่า “เพราะผิวหน้า ไม่ใช่สนามทดลอง ลองจนเจ็บแต่ไม่จบ สมูทอี เจ็บแค่ไหน…จบที่เธอ อ่อนโยน…เห็นผล” ตอกย้ำ 30ปีความไว้วางใจ เวชสำอางสำหรับผิวบอบบาง เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่มาดูแลผิวบอบบางง่ายๆ ใน 3 สเต็ปกับสมูทอี ด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ล้างหน้า บำรุง และปกป้องผิวหน้า
นอกจากนี้ สมูทอียังกิจกรรมพิเศษกับการเปิดตัว Pre Valentines Gift Set ปล่อยในงานครั้งนี้ ครั้งแรกของการคอลแลปส์ของสมูทอีกับแบรนด์ AlwaysWonder และ Keepsilent ของหลิง-ออม กับกิ๊ฟเซทสุดพิเศษต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่นให้เลือกใน 2 รูปแบบเพื่อให้ลูกค้าได้สะสมในราคา 2,500 บาท พร้อมกิจกรรมในงาน อาทิ โฟโต้บูท ตรวจสภาพผิวหน้า แจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง โดยสามารถซื้อเซทได้ทาง Line @smoothe_thailand ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กิ๊ฟเซทมีจำนวนจำกัด หรือจนกว่าของจะหมด
เภสัชกรศุภาพิชญ์ กล่าวเสริมว่า สมูทอียังสานต่อการทำจัดกิจกรรม Mobile Clinic ตรวจสภาพผิวและให้คำแนะนำในการดูแลผิวแก่ผู้บริโภคทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น สมูทอี กำลังทำโปรเจคพิเศษร่วมกับแพทย์ผิวหนังระดับประเทศในการเปิดคลินิกความงาม สมูทอี ที่พิเศษกว่าคลินิกอื่นๆ แน่นอน ซึ่งจะมีอัปเดตในเร็ว ๆ นี้
นายธนชัย กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่า นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่อยากจะสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นจุดยืนของสมูทอี การเปิดตัวนิวเฟซออฟสมูทอี ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้สมูทอีครองใจผู้บริโภคที่มีผิวบอบบางในวงกว้าง และก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดเมดิคอล สกินแคร์ในประเทศไทยได้สำเร็จ และปัจจุบันสมูทอีสินค้ามากกว่า 300 รายการมีนักวิจัยมากกว่า 100 คน ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาทิ จีน เวียดนาม และมาเลเซีย สำหรับในไตรมาสสองสมูทอียังมีแผนที่จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลสุขภาพผิวที่ยั่งยืน และบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวคลีนิกความงามร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงานและเลือกทำเลคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปีนี้เพื่อสนับสนุนแบรนด์
#สมูทอี #ThaiSMEs