ดองกิ ปรับองค์กรเล็งเปิด สาขา เชียงใหม่ภูเก็ต ใน 3 ปี พร้อม ดึง 15 บริษัทญี่ปุ่น จัดแสดงสินค้า สาขาทองหล่อ ส่งเสริมการท่องเที่ยว

กองบรรณาธิการ

ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ (DONKI MALL THONGLOR) จัดงาน NIHON-ICHI BY TAITO-KU พาสัมผัสกับวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าจากเขตไทโท ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดในโตเกียวที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง อุเอโนะ และอาซากุสะ โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความงดงามของงานฝีมือญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์จากความใส่ใจและประสบการณ์อันยาวนานของช่างฝีมือท้องถิ่น พร้อมด้วยกิจกรรมและการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความดั้งเดิมของวัฒนธรรมญี่ปุ่น มุ่งหวังเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับผู้เข้าชม รวมถึงต้องการนำเสนอเสน่ห์ของเขตไทโทให้เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทย และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวไปเยือนสถานที่เหล่านี้เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-29 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ

นายฮิโรชิ ทานากะ กรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีโอเอ-พีพีไอเอช และศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ ได้กล่าวถึง ภาพรวมของศูนย์การค้าฯว่า ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ มีจุดเด่นที่หลากหลาย ทั้งในด้านบรรยากาศและการตกแต่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างชัดเจน อาทิ การจัดแสดงต้นซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิและต้นแปะก๊วยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสวยงามและความเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่พิเศษและแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นที่ในรูปแบบที่เป็นมิตรและผ่อนคลาย มีร้านค้าญี่ปุ่นจำนวนมากที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพจากญี่ปุ่นและอาหารญี่ปุ่นที่สามารถดึงดูดผู้คนให้มาสัมผัส พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายและดึงดูดใจให้กับลูกค้า

 นายเคนทาโร่ อิคุชิมา ตัวแทนจาก เขตการบริหารไทโท จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เขตการบริหารไทโท ร่วมกับดองกิ และบริษัทร้านค้าที่เก่าแก่ของเมืองไทโท จำนวน 15 แห่ง โดยมีบริษัทที่มีอายุมากกว่า 100 ปี จำนวน 6 บริษัท นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทที่เคยมาออกร้านที่สาขาทองหล่อเมื่อปีที่ผ่านมา มาออกร้านอีกครั้งด้วย ทั้งนี้การร่วมออกงานนอกจากเป็นการเผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทญี่ปุ่นได้มีโอกาสมาสัมผัสและมีประสบการณ์ในการออกร้านที่ประเทศไทย รวมถึงการเปิดโอกาสให้มีการทำบิซิเนส แมตชิ่งระหว่างบริษัทที่มาออกงานและธุรกิจไทยที่สนใจจะร่วมมือกับบริษัทจากญี่ปุ่นด้วย ทั้งนี้บริษัทที่มาร่วมออกร้านในงาน NIHON-ICHI BY TAITO-KU จะพามาสัมผัสกับเสน่ห์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง สามารถมาร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 ธันวาคม 2567 ณ บริเวณทางเข้าหลักชั้น 1 ศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ

ด้านอัตราการเติบโตของยอดขายของ ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ นายฮิโรชิ กล่าวว่า ในปี 2567 นี้ดองกิ เข้ามาขยายสาขาในประเทศครบรอบ 5 ปี ย่างเข้าปี ที่ 6 ในปี 2568 โดยในปี 2567 ดองกิมียอดขายของศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรเติบโตเกือบ 2 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และตลาดที่กลับมามีความคึกคัก รวมถึงผลจากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 คาดว่าจะรักษายอดขายในระดับปัจจุบันได้ และเพิ่มอัตรากำไรได้ในระดับ 5-10 เปอร์เซ็นต์ โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาด สำหรับส่วนแบ่งตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดศูนย์การค้ากรุงเทพฯ ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ ถือเป็นศูนย์การค้าขนาดกลางถึงเล็กที่มุ่งเน้นให้บริการลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่เน้นเป็นห้างสรรพสินค้าหรูหรา แต่ให้ความสำคัญกับสินค้าคุณภาพดีและบริการที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับแนวโน้มในอนาคตของตลาดศูนย์การค้าในพื้นที่ทองหล่อคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการสร้างโรงแรมและคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชากรในพื้นที่เพิ่มขึ้น และในอนาคตคาดว่าจะมีร้านค้ามารวมตัวกันในศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ในด้านแผนการตลาดของดองกิ มอลล์ ทองหล่อ ในปี 2568 นั้น จะมุ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อดึงดูดและเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กลับมาใช้บริการศูนย์การค้าอีกครั้ง นอกจากนี้ในอนาคตเรายังมีความตั้งใจที่จะขยายศูนย์การค้าของเราไปยังสถานที่ใหม่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ แต่ยังรวมถึงทั่วประเทศไทยอีกด้วย” นายฮิโรชิ กล่าวและว่า บริษัทอยู่ระหว่างปรับองค์กรภายในเพื่อที่จะนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงทบทวนการเปิดสาขาให้ครบ 10 สาขา จากเดิม บริษัทมีเป้าหมายในการเปิดสาขาในไทยให้ครบ 10 สาขาใน 5 ปี แต่ปัจจุบันสามารถเปิดได้เพียง 8 สาขา จะสามารถเปิดได้ครบ 10 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะสามารถเปิดสาขาได้ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ต โดยการลงทุนเปิดสาขาแต่ละแห่งจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในการทำตลาดในประเทศโดยรวม ตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพมีสีสันเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศสิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง และตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตอยู่ในอันดับท็อป 4 ในภูมิภาคอาเซียน และสินค้าที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรกได้แก่ ขนมขบเคี้ยว อาหาร และคอสเมติก

นายฮิโรชิ กล่าวต่อว่า ในปีนี้คาดว่าธุรกิจจะมีการเติบโตประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทย ดองจิให้บริการ 8 สาขา ประกอบด้วย

• ดองกิ มอลล์ สาขาทองหล่อ

• ดองกิ มอลล์ สาขาศูนย์การค้าเอ็มบีเค 

• ดองกิ มอลล์ สาขาธนิยะ พลาซ่า 

• ดองกิ มอลล์ สาขาศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์

• ดองกิ มอลล์ สาขาศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ บางแค

• ดองกิ มอลล์ สาขาศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ 

• ดองกิ มอลล์ สาขาเจพาร์ค   

สำหรับดองจิ สาขาที่มีจำนวนลูกค้าเข้ามากที่สุด คือ สาขาศูนย์การค้าเอ็มบีเค มีลูกค้าเข้าร้านมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับร้านดองจิ สาขาทองหล่อ สินค้าทั้งหมดของดองจิมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้ามาจากญี่ปุ่น

#ดองกิ #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share