KBTG ปักหมุด ปี 2568 เพิ่ม วิศวกร AI 750 คนก้าว สู่ยุค Agentic AI คาดมีผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า หมื่นล้านบาทใน 5 ปี

กองบรรณาธิการ

KBTG ประกาศความสำเร็จด้าน AI ในปี 2567 พร้อมปักเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2568 ภายใต้ยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation เน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทย ตามแนวคิด KBTG AI For Thailand พร้อมตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า  

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 ทาง KBTG ได้บรรลุความสำเร็จด้าน AI ในหลายมิติ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI เช่น AINU, THaLLE, Future You, คู่คิด, AI-Enabled VDO Analytics, Document OCR ไปจนถึงการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent หรือโมเดล AI เฉพาะทางสำหรับใช้งานภายในองค์กร โดย AI Agent ตัวแรกที่ได้มีการเปิดให้พนักงาน KBTG ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยคือ HR Chat Agent ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม บัญชีค่าใช้จ่าย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลา 

KBTG ยังเป็นองค์กรไทยหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล The Innovators 2024 จาก Global Finance ในสาขา Compliance/Risk Innovation: Best eKYC Innovation to Minimize Facial Fraud ผ่านผลงานด้าน AI อย่าง Face Liveness Detection ที่มีการนำไปใช้ในแอพพลิเคชันต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทย และให้บริการเชิงพาณิชย์ผ่าน AINU อีกทั้งมีการสร้างพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ทั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ), สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT), AI Singapore, Google Research, MIT Media Lab และ AI Fund รวมถึงการได้รับคัดเลือกตีพิมพ์งานวิจัยในงานประชุมนานาชาติด้าน NLP ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง The 62nd Annual Meeting of the Association for Computational Linguistics (ACL 2024) มีการตีพิมพ์ผลงานในวารสารนานาชาติรวมทั้งหมด 30 ฉบับ แบ่งเป็น Rank A* 2 ฉบับ และ Rank A 5 ฉบับ ที่ถูกนำไปต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI การยกระดับ eKYC ด้วย Computer Vision และการตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่าน Chatbot โดย NLP

นายเรืองโรจน์ กล่าวว่า ในปี 2568 เทรนด์ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทประกอบไปด้วย 3 เทรนด์ คือ 

1.       AI for Human Intelligence การใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (AI-Driven Business Impact) 

2.       AI Agent โมเดล AI เฉพาะทางที่สามารถทำงานและตัดสินใจแบบ End-to-end ได้อย่างแม่นยำ 

3.     AI Guardrails การใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยง ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่น 

โดยเทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ KBTG คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถปฏิบัติการได้เอง แต่ยังประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น สำหรับในปีที่จะถึงนี้ KBTG จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยยังคงวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ผ่าน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 

Agentic Platformization การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent ที่ KBTG พัฒนาใช้เองภายในองค์กร เปรียบเสมือน AI Agent Factory ช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานของ KBTG ซึ่งปัจจุบันองค์กรกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่น ๆ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent 

Agentic Orchestration การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เช่น เบื้องต้นมีการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของ Developer โดยสามารถลดเวลาการทำงานของ Developer เบื้องต้นได้ไม่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และมีการสร้างโค้ดด้วย AI ไปแล้ว 500,000 Line of Code ก้าวต่อไปคือการเพิ่มความสามารถจาก AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน ช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด และทำให้ Software Development Life Cycle รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 

Agentic Humanization การเตรียมความพร้อมของคนทั้งในด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุก ๆ วัน โดยปัจจุบัน KBTG ได้บรรลุเป้าหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ด้าน AI Literacy สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AI ให้พนักงานทุกคน มีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย (KBTG Democratization of AI: K-DAI Council) เพื่อจะมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง โดย AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและนำพาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

ปัจจุบัน KBTG พัฒนาเอไอแพลตฟอร์มสำหรับใช้ภายในขององค์กรและพันธมิตรประมาณ 10 แพลตฟอร์ม มีวิศวกร เอไอ 250 คนจากพนักงานทั้งหมด 2,600 คน จะบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มวิศวกรเอไออีก 750 คน เป็น 1,000 คนในปี 2568 เพื่อรองรับการพัฒนาและต่อยอดแพลตฟอร์มเอไอมากขึ้น อาทิ แพลตฟอร์มเอไอที่รองรับการแพทย์ การศึกษา ไซเบอร์ ซิเคียวรีตี้ พัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจาก 6.5 เท่า เป็น 10 เท่า สร้างอีโคร ซิสเต็ม เอไอของไทยสู่สากล โดยมี  K-DAI Council เป็นหน่วยงานกลางที่กำกับดูแลวิสัยทัศน์ด้านเอไอ รวมถึงขับเคลื่อน เอไอของ บริษัทเพื่อรองรับ การก้าวสู่ KBTG 3.0 ด้วย

ทั้งนี้ KBTG ตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายในปี 2572 ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Organization ปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด พร้อมทั้งขับเคลื่อนการสร้าง AI-Driven Innovations เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร รวมถึงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ด้วยการนำงานวิจัยด้าน AI มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศ เช่น AI เพื่อการศึกษา AI เพื่อเป็นที่ปรึกษาสำหรับเยาวชน และ AI เพื่อการแพทย์ ตามแนวคิด KBTG AI For Thailand ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีและที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

#KBTG #ThaiSMEs 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share