การ์ทเนอร์เผยรายงานตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซี พบว่าภาพรวมยอดขายพีซีทั่วโลกไตรมาสแรกปี 2020 มีจำนวนอยู่ที่ 51.6 ล้านยูนิต ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019 จากผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ยังพบว่ายอดขายของตลาดพีซีทั่วโลกประสบวิกฤตลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2013 เนื่องจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสหลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ไตรมาส ก่อนหน้านี้ มิคาโกะ คิตากาวะ, ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก กล่าวว่า “การระบาดของไวรัส เป็นปัจจัยหลักที่มีส่งผลกระทบต่อการทรุดตัวของตลาดพีซีมากที่สุด ทำให้ทั้งอุปสงค์และอุปทานของตลาดพีซีหยุดชะงัก” “ หลังจากประเทศจีนเริ่มต้นมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปลายเดือนมกราคม ปริมาณการผลิตพีซีก็ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ และได้กลายเป็นความท้าทายด้านการขนส่ง”
อย่างไรก็ตาม เมื่อการล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อป้องกันโคโรน่าไวรัสแพร่กระจายขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ได้เกิดความต้องการพีซีในรูปแบบใหม่เพื่อรองรับการทำงานระยะไกลและเรียนผ่านระบบออนไลน์ ผลประกอบการของผู้ผลิตพีซีไตรมาสนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้จ่ายด้านพีซีมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ประกอบกับการสิ้นสุดในการอัพเกรดสูงสุดที่วินโดวส์10 ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องโยกงบประมาณด้านไอทีจากพีซี ไปใช้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เราจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการและผู้บริโภคยืดอายุการใช้งานพีซีให้ยาวนานมากขึ้นเนื่องจากพวกเขามุ่งเน้นที่ไปการเก็บรักษาเงินสด” คิตากาวะกล่าว
แม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตพีซีสามอันดับแรกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นจาก 60% ในไตรมาสแรกปี 2019 เป็น 65.6% ในไตรมาสแรกของปี 2020 โดยเลอโนโว ครองตำแหน่งที่ 1 ในตลาดพีซีทั่วโลก มียอดขายสินค้าลดลง 3.2% ในไตรมาสแรกของปี 2020 และ 22.6% เทียบปีต่อปีในเอเชียแปซิฟิก ในไตรมาสแรก เอชพี อิงค์มีความท้าทายจากยอดขายพีซีที่ลดลง 12.1% หลังจากเติบโตติดต่อกันสามไตรมาส โดยบันทึกยอดขายสินค้าลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในทุกภูมิภาคที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดในการตีตลาดพีซีแบบตั้งโต๊ะในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดลล์เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มียอดขายเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปีเพิ่มขึ้น 2.2% โดยในไตรมาสแรกของปี 2020 เดลล์มียอดขายเติบโตขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาที่ยังมีความต้องการพีซีของเดลล์คงที่ตลอดจนถึงเดือนมีนาคม และในไตรมาสแรกของปี 2020 ยังถือเป็นไตรมาสที่เก้าติดต่อกันที่เดลล์มียอดขายเติบโต ภาพรวมยอดขายในระดับภูมิภาค ….ยอดขายพีซีในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกันสืบเนื่องมาจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจากภาครัฐ ไวรัสสร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในตลาดอเมริกาช่วงไตรมาสแรกปี 2020 โดยตลาดพีซีของอเมริกามีอัตราเติบโตเล็กน้อยเพียง 0.8% อย่างไรก็ตามยอดขายพีซีหล่นฮวบถึง 30.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
เดลล์ และ เอชพี อิงค์ สลับตำแหน่งกันในเรื่องของยอดขายพีซีในตลาดอเมริกา โดยเดลล์ครองส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 31%
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้รวมพีซีแบบตั้งโต๊ะ, โน้ตบุ๊กพีซีและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมขนาดพกพา เช่น (ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ) แต่ไม่รวมโครมบุ๊กและไอแพด. ข้อมูลทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการประมาณการเบื้องต้น. การประมาณการขั้นสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง สถิติจะขึ้นอยู่กับการจัดส่งสินค้าทางช่องทาง ตัวเลขต้องไม่เกินจำนวนที่แสดงเนื่องจากการปัดเศษ ที่มา: การ์ทเนอร์ (เมษายน 2020) ตั้งแต่การ์ทเนอร์เริ่มเก็บข้อมูลตลาดพีซี ปีนี้เอเชียแปซิฟิกมีตัวเลขการลดลงต่ำที่สุดที่ 27.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่การเกิด COVID-19 ในประเทศจีนที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของการลดลงนี้ อันเนื่องมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรธุรกิจ ภาครัฐและผู้บริโภคถูกระงับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ การส่งมอบพีซีในประเทศจีนตกลงมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เดส์กท็อปพีซีที่เป็นสินค้าหลักของกลุ่มลูกค้าภาครัฐและภาคการศึกษาต้องพบกับตัวเลขที่ต่ำลงมากที่สุดเกือบ 40% โดยโมบายล์พีซีเช่นโน้ตบุ๊กลดลงน้อยกว่า 20% อันเนื่องมาจากความต้องการของฝั่งพนักงานและนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อทำงานหรือเรียนจากบ้าน ยอดขายพีซียุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาลดลง 7% เหลือ 16.8 ล้านยูนิตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี ในไตรมาสแรกการซื้อพีซีทั้งจากตลาดธุรกิจและตลาดคอนซูมเมอร์ลดลงอย่างฮวบฮาบอันเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มข้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของหลายประเทศในภูมิภาคนี้