กองบรรณาธิการ
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือน 9 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ทุกสายธุรกิจมีทิศทางขาขึ้นและแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในช่วง 9 เดือน มี Backlog ทั้งกลุ่มรวมเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะสายธุรกิจ ICT ที่มีผลงานโดดเด่นในไตรมาส 3 แต่ทั้งนี้ก็ยังมีหลายโครงการที่ยังล่าช้าจากงบประมาณภาครัฐที่ดีเลย์ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และสำหรับไตรมาส 4 คาดว่าจะรับรู้รายได้และกำไรมากขึ้นกว่าทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา
สายธุรกิจ Digital ICT Solutions หรือ SAMTEL
ในช่วง 9 เดือน SAMTEL มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่ากว่า 1,500 บาท อาทิ โครงการของการนิคมอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรมที่ดิน เป็นต้น รวม Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่มากที่สุด มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงที่หน่วยงานต่าง ๆ เริ่มใช้งบประมาณเต็มที่ อาทิ โครงการ Core Banking, โครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และอื่น ๆ ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีจะมีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่รวมประมาณ 7,500 ล้านบาท
สายธุรกิจ Utilities & Transportations
โดยบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (SAV) ธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา เฉพาะ 9 เดือน จำนวนไฟล์บินเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8 เปอร์เซ็นต์ รายได้เติบโตขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ ใน6 เดือนแรก ด้านกำไรมากกว่าเดิมค่อนข้างมาก โดยเติบโตมากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ใน 2 ไตรมาสแรก YOY เป็นผลจากการที่รัฐบาลกัมพูชาออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เกิดเส้นทางการบินใหม่ รวมถึงมีการลงทุนเปิดสายการบินใหม่แอร์เอเชียกัมพูชา ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยวและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในช่วง high season คือช่วงไตรมาส 4 นี้อย่างแน่นอน ด้านโครงการขยายการบริหารจัดการวิทยุการบินที่สปป.ลาว มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะเซ็นสัญญา MOU ในไตรมาส 4 ปีนี้
สายธุรกิจ Digital Communications หรือ SDC
SDC รับรู้รายได้จากค่าบริการ Airtime ตลอดทั้งปี ในโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอล หรือ Digital Trunked Radio System ของโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย (MOI) ประมาณ 317 ล้านบาท และล่าสุด SDC ได้รับการขยายอายุสัญญา 15 ปี จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (มหาชน) จึงเป็นการสร้างโอกาสในการขยายฐานผู้ใช้บริการ DTRS ในองค์กรสาธารณภัยซึ่งมีเครือข่ายทั่วประเทศ โดยสรุป SDC เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปีตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 602 ล้านบาท
“การก้าวสู่ยุคดิจิตอลเป็นโอกาสของการขยายผลและต่อยอดธุรกิจ เราจึงมุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่นบริษัท เทด้า ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม อาทิโซลาลูฟท็อป และคาร์บอนเครดิต , โครงการ Direct Coding ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้แก่กรมสรรพสามิต เราก็มีแผนขยายการให้บริการเข้าไปในกลุ่มยา อาหารเสริม และ wine cooler เป็นต้น”
นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมทั้งการบริหารงานและฐานะการเงินที่มั่นคง มีการออกหุ้นกู้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และมีการชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดตรงเวลามาโดยตลอด โดยการประกาศขายหุ้นกู้ครั้ง 1 ปี 2024 ได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้สนใจซื้อถึง 643 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 85 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดมีการเตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2 ปี 2024 เป็นหุ้นกู้ 2 ปี ดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.67 นี้ ทั้งนี้เพื่อจะนำเงินมาใช้คืนหุ้นกู้ที่จะหมดในต้นปีหน้าเดือนมกราคม จำนวน 1,675 ล้านบาท และเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯต่อไป
#กลุ่มสามารถ #ThaiSMEs