กองบรรณาธิการ
GISTDA นำเทคโนโลยีอวกาศแพลตฟอร์ม AIP หรือ Actionable Intelligence Policy กว่า 6 ปี แพลตฟอร์ม AIP ได้มีการเริ่มต้น และพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย ผ่านการนำร่องใช้งานในพื้นที่ต้นแบบ ทั้งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่มีการทดสอบนโยบายการจัดการน้ำ เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม ภาคครัวเรือน และกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และในพื้นที่จังหวัดน่าน ที่ใช้ AIP เพื่อประเมินความเหมาะสมของการใช้ที่ดิน และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อวางแผนการจัดการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ การหาพื้นที่และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการประกอบอาชีพ เพื่อดำรงชีพร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
จากโมเดลนำร่องใน 2 พื้นที่ดังกล่าว มีการขยายผลไปสู่การใช้งานแพลตฟอร์ม AIP ในด้านอื่น ๆ ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change ) ที่จังหวัดนครราชสีมา และการปล่อยก๊าซมีเทนในข้าวที่จังหวัดชัยนาท รวมถึงการต่อยอดระบบบริหารจัดการน้ำกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่กำลังจะขยายผลการใช้งานไปสู่พื้นที่อื่น ๆ และเป็นการวางแผนคาดการณ์กับนโยบายที่เห็นผลในระยะสั้นมากขึ้น
ดร.ดิชพงษ์ ภูมิเกียรติศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบนวัตกรรมนโยบายเชิงพื้นที่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA กล่าวว่า การนำแพลตฟอร์ม AIP ไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ปัจจุบันได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น โดยมีทั้งการขยายผลความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เช่น เรื่องการบริหารจัดการน้ำ การเกษตร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกันในเรื่องใหม่ ๆ ก็มีหน่วยงานภาครัฐให้ความสนใจในการนำหลักการของ AIP ไปใช้ในมิติอื่น ๆ อย่างเช่น การบริหารจัดการเมือง ที่จำเป็นต้องมีการวางแผนรองรับการขยายตัวของเมือง การจัดการที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่จะตามมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
การทำ AIP เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย จำเป็นที่จะต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยในมิติต่าง ๆมากกว่า 1 ด้าน และมีการเชื่อมโยงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นภาพ สถานการณ์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและจำลองเหตุการณ์เพื่อคาดการณ์ไปถึงอนาคต
ด้วยเป้าหมายของ AIP คือ การเป็นเครื่องมือของหน่วยงานภาครัฐ ให้สามารถกำหนดนโยบายได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ โดยเฉพาะ ข้อมูลจากดาวเทียม ที่ถือเป็นจุดแข็งของ GISTDA ซึ่งที่ผ่านมาเทคโนโลยีดาวเทียมของ GISTDA นอกจากจะสร้างแผนที่พื้นฐานที่มีความละเอียดและแม่นยำสูงแล้วยังมีการสร้างโซลูชั่นที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมทุกปีที่สามารถดูย้อนหลักไปได้เป็น 10 ปี ข้อมูลจุดความร้อนที่มาจากไฟป่า ข้อมูล PM 2.5 ข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่มีการอัพเดททุก 15 วัน รวมถึงเรื่องพื้นที่ป่า พื้นที่สีเขียว และการปลดปล่อยคาร์บอน
“ โซลูชั่นเหล่านี้ GISTDA ได้ดำเนินการมายาวนาน เรียกได้ว่า..เป็นองค์ความรู้ เป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ ที่ GISTDA เก็บสะสมมาและยังทำอยู่ รอวันที่จะประกอบร่างเป็น AIP เพี่อตอบคำถามเชิงนโยบาย ซึ่งเมื่อรวมกับข้อมูลสารสนเทศจากแหล่งอื่น ๆ รวมถึงโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้แพลตฟอร์ม AIP มีข้อมูลที่หลากหลายมิติ และครอบคลุมรอบด้านมากขึ้น ”
ดร.ดิชพงษ์ กล่าวว่า GISTDA มีแผนที่จะทำ AIP ในโจทย์ใหม่ ๆ ตามความต้องการของหน่วยงานภายนอกมากขึ้น รวมถึงการทำ AIP ในโจทย์ที่เป็นประเด็นสำคัญ อย่างเช่น Climate Change ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 GISTDA ได้มีการตั้งงบสำหรับดำเนินการในโจทย์เรื่องดังกล่าว และตั้งเป้าในการทำ AIP อย่างน้อยปีละ 1 เรื่อง ไม่รวมความต้องการเร่งด่วนหรือโจทย์อื่นๆ ที่มาจากความต้องการใช้บริการของหน่วยงานภายนอก
ปัจจุบัน GISTDA ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการแพลตฟอร์ม AIP กับหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อสร้างโซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะด้านเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการจัดการน้ำ แบบองค์รวม การจัดการเมืองและเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ การจัดการภัยพิบัติ การจัดการเกษตรและอาหาร และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ
ทั้งนี้ AIP ได้ดำเนินการสร้างนโยบายที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ผ่านหลักการของ 5M ได้แก่ Mapping ทำข้อมูลเชิงพื้นที่ Monitoring ติดตามการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่นั้น Modeling การทำแบบจำลองเพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคต Measurement การวัดผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อเลือกการดำเนินงานที่เหมาะสมที่สุด และ Managing การบริหารจัดการ ที่นำเอาความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกระดับที่มีต่อ “นโยบาย” มาวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติงานได้จริง
อนาคต …ทีมพัฒนาคาดหวังว่า การให้บริการแพลตฟอร์ม AIP จะกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูงของ GISTDA เพราะการใช้ประโยชน์จากการมีเทคโนโลยีดาวเทียมไม่ได้มีเพียงการขายภาพถ่ายทางอากาศ
# GISTDA #AIP #ThaiSMEs