ETDA ประกาศผลแข่งขัน Craft Idea ปี 4 ทีมมะค่าทรัพย์ทวี จากม.มหาสารคาม คว้าแชมป์สุดยอดแผนธุรกิจ Empower Social Enterprise

กองบรรณาธิการ

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จับมือพาร์ทเนอร์ ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.), บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จัด การแข่งขัน Craft Idea ปีที่ 4 รอบ Final Pitching  ภายใต้แนวคิด Empower Social Enterprise ปลดล็อกไอเดียสร้างสรรค์ประชันแนวคิดนำธุรกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ทีมมะค่าทรัพย์ทวี จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เจ้าของแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ ถุงสมุนไพรแช่เท้า จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ปลอดภัยจากสารเคมี  ที่ช่วยในการผ่อนคลายและแก้ปัญหารองช้ำ คว้ารางวัลชนะเลิศ สุดยอดว่าที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของแผนธุรกิจที่ช่วยพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับชุมชน รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโอกาสในการต่อยอดผลงานสู่การใช้งานจริง

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กล่าวว่า การพัฒนาให้ประเทศมีสถานะทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่ดีขึ้น สิ่งสำคัญคือการพัฒนากำลังคนที่จำเป็นต้องมีการกระจายลงไปในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ โดย ETDA ได้มีบทบาทในการส่งเสริมการ Transform โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน จึงไม่ได้ทำเพียงแค่ในระดับองค์กร แต่ได้กระจายไปถึงระดับพื้นที่ ดังนั้น จึงได้มีการดำเนินงาน ภายใต้ โครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งพัฒนาและสร้างกำลังคนดิจิทัลทั้งในกลุ่ม นักเรียน นักศึกษา บัณฑิตจบใหม่และประชาชนที่มีศักยภาพ ให้มีทักษะด้านดิจิทัล ทั้ง การตลาดดิจิทัล หรือ ดิจิทัลคอมเมิร์ซ โดยผนวกแนวคิดการพัฒนาธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคม (Social Enterprise หรือ SE) ที่ช่วยเติมเต็มทักษะไอเดียใหม่ ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย พร้อมสู่การเป็น โค้ชดิจิทัลชุมชน ที่พร้อมถ่ายทอดความรู้และร่วมพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนพัฒนาแผน Business Model ที่เหมาะสมและชุมชนสามารถนำไปใช้ได้จริง ภายใต้แคมเปญ การแข่งขัน Craft Idea ควบคู่ไปกับการขยายผลการดำเนินงานไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ELDC มี โค้ชดิจิทัลชุมชน กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ แล้วกว่า 5,386 ราย กว่า 757 ชุมชนทั่วประเทศ

ดังนั้น การแข่งขัน Craft Idea ปี 4 ปีนี้ จึงมาในแนวคิด Empower Social Enterprise ปลดล็อกไอเดียสร้างสรรค์ประชันแนวคิด นำธุรกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ที่เปิดโอกาสให้ โค้ชดิจิทัลชุมชน ในฐานะ ว่าที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ผ่านการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถด้านดิจิทัลจากโครงการ ELDC ได้ร่วมประชันไอเดีย นำเสนอแผนธุรกิจ Business Pitching ที่ได้ร่วมออกแบบกับวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ได้โมเดลแผนธุรกิจพัฒนาธุรกิจชุมชนให้พร้อมก้าวสู่การเป็นกิจการเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise อย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งการแข่งขันในปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เพราะเปิดโอกาสให้ชุมชนหรือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมตลอดการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย

หลังจาก เปิดรับสมัครตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบว่า ได้รับการตอบรับจากเหล่าโค้ชดิจิทัลชุมชน ว่าที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ รวมถึง ชุมชมจากทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สมัครร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ก่อนคัดเลือกทีมและชุมชนที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ให้เหลือ 80 ทีม เพื่อไปต่อในกิจกรรมการอบรมสุดเข้มข้น จากผู้เชี่ยวชาญจากโครงการ ELDC ที่ลงพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค ทั่วประเทศ เพื่ออบรมเสริมทักษะดิจิทัลภายใต้หลักสูตร พลิกฟื้นชุมชนด้วย

การตลาดดิจิทัล ที่มีเนื้อหามุ่งเน้นในการพัฒนาชุมชนเพื่อสังคม นำเสนอแนวคิดนวัตกรรม ไปจนถึงกลยุทธ์พลิกฟื้นชุมชนด้วยการตลาดดิจิทัล จากนั้น ทุกทีมก็ได้ฝึกปฏิบัติจริง ด้วยการ ลงพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างสรรค์แผนธุรกิจ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันในรอบ Audition ระดับภูมิภาค ต่อเหล่าคณะกรรมการที่ร่วมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และคัดจนเหลือ ภูมิภาคละ 12 ทีม รวมทั้งหมด 64 ทีม เพื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบ Local Pitching กับการนำเสนอแผนธุรกิจรอบคัดเลือกครั้งสุดท้าย เพื่อคัดให้เหลือ 12 ทีมสุดท้าย สำหรับการแข่งขันในรอบ Final Pitching ดังนี้

ภาคกลาง : ทีมบัวชมพู SPUC มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี : ชุมชนบ้านเนินน้อย จ.ฉะเชิงเทรา, ทีม MSKRU Marketing & New Media ทีม B มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี : บ้านกอง ม่องทะ จ.กาญจนบุรี และทีมจักสานอินเตอร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี : ชุมชนศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ จ.ชลบุรี

ภาคเหนือ: ทีมนักธุรกิจตัวใหญ่ มหาวิทยาลัยพะเยา : วิสาหกิจชุมชนศูนย์การเรียนรู้อนุรักษ์ด้วงกว่างบ้านแม่สุก   จ.พะเยา, ทีม MS GET SMART มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม : กลุ่มเกษตรกร ตำบลชัยนาม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก   และทีมนักธุรกิจตัวจิ๋ว มหาวิทยาลัยพะเยา : วิสาหกิจชุมชนกลุ่ม ปลูกเพาะใจรัก บ้านจว้าใต้ จ.พะเยา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ทีมไข่เค็มบ้านกางของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ : กลุ่มสัมมาชีพบ้านกางของ จ.สุรินทร์, ทีมมะค่าทรัพย์ทวี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม : บ้านมะค่า หมู่ที่ 3 ตำบลมะค่า    อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม และทีมธุงอีสานเจิดจรัส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร : วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสมุนไพร จ.สกลนคร

ภาคใต้: ทีมกลอยใจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี : ชุมชนบ้านปากซวด จ.สุราษฎร์ธานี, ทีมจี๊ด มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี : ชุมชนคลองยัน จ.สุราษฎร์ธานี และทีม PKRU BY AGGIE มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต : ชุมชนสาคู จ.ภูเก็ต

สำหรับ การแข่งขัน Craft Idea ปีที่ 4 รอบ Final Pitching ทั้ง 12 ทีมสุดท้าย พร้อมด้วย 12 ชุมชม มีการนำเสนอแผนธุรกิจชุมชน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ร่วมตัดสิน โดยพิจารณาภายใต้เกณฑ์การตัดสินที่ครอบคลุมทั้งความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์  มุมมองการตลาดดิจิทัล คุณค่าทางสังคม และประสิทธิภาพในการตอบโจทย์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการในชุมชนที่เลือกมา เป็นต้น

จนในที่สุดก็ได้ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมมะค่าทรัพย์ทวี จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และชุมชนบ้านมะค่า หมู่ที่ 3 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ด้วยแผนธุรกิจ ถุงสมุนไพรแช่เท้า รับเงินรางวัล100,000 บาท ส่วนชุมชน รับเงินรางวัล 50,000  บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร ขณะที่ทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม PKRU BY AGGIE จาก มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และชุมชนสาคู จ.ภูเก็ต เจ้าของแผนธุรกิจพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชนสาคูร่วมใจพัฒนาที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีครบวงจร รับเงินรางวัล 50,000 บาท ชุมชนรับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร และรางวัลรองรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีมจี๊ด จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และชุมชนคลองยัน จ.สุราษฎร์ธานี  เจ้าของแผนธุรกิจ ชาเปลือกกาแฟออแกนิค ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟเงินรางวัล 30,000 บาท และชุมชนจะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร

“Craft Idea ปีนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของชุมชน ที่สะท้อนความสำเร็จของโครงการ ELDC ในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในฐานะ Digital Workforce ที่มีความพร้อมนำความรู้ด้านดิจิทัล มาพัฒนาเป็นแผนธุรกิจเพื่อร่วมพาชุมชนสู่โอกาสทางการตลาดดิจิทัล สร้างรายได้ ไปพร้อม ๆ กับการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืน สำหรับก้าวต่อไป นอกจากการส่งต่อแผนธุรกิจที่ได้รับการพัฒนาในโครงการฯ ให้กับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อให้แผนธุรกิจเหล่านี้ได้รับการนำไปใช้งานจริงและขยายผลให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการชุมชนที่เป็นรูปธรรมแล้ว ยังถือเป็นโมเดลสำคัญที่ ETDA จะใช้ในการต่อยอด และขยายผลไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ทั่วประเทศที่มีศักยภาพและยังขาดโอกาส ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทั้งภาครัฐและเอกชนและหน่วยงานในพื้นที่ ในแต่ละภูมิภาค ที่มาร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน สู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งและมีศักยภาพต่อไป”ดร.ชัยชนะ กล่าว

สำหรับ คนรุ่นใหม่ ประชาชน หรือชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ต่างทๆ ที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) สามารถติดตามรายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand หรือ ที่เว็บไซต์ https://www.etda.or.th/th/Our-Service/DigitalWorkforce/eldc.aspx

#ETDA #ETDALocalDigitalCoach #ELDC #ThaiSMEs 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share