เซ็นทรัล ทำ พร้อมดันแบรนด์ good goods สู่ โกลบอล แบรนด์ใน 5 ปี ตั้งเป้าโต 100% ยอดขาย 400 ลบ. ปี 2567

กองบรรณาธิการ

โครงการ เซ็นทรัล ทำโดย นายพิชัย จิราธิวัฒน์ ร่วมมือกับ MOO Bangkok โดย นายพลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้ก่อตั้งอาซาว่า กรุ๊ป สร้างสรรค์คอลเลกชันพิเศษภายใต้แบรนด์ good goods เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยและเชื่อมต่อองค์ความรู้ สู่ การออกแบบร่วมสมัย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เซ็นทรัล ทำทำด้วยกัน ทำด้วยใจ โครงการด้านความยั่งยืน ของกลุ่มเซ็นทรัล มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะที่นำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่กลุ่มเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าพื้นเมือง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้งในด้านเกษตร งานฝีมือ และการท่องเที่ยวชุมชนที่ยั่งยืน และหนึ่งในความสำเร็จของเรา คือ การร่วมมือกับชุมชนบ้านกุดจิก อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตผ้าย้อมครามทอมือแบบดั้งเดิม ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การปลูกฝ้ายและคราม ไปจนถึงการย้อมครามด้วยเทคนิคภูมิปัญญาชาวบ้านที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

นายพิชัย  จิราธิวัฒน์  กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของชุมชนบ้านกุดจิก ที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามทอมือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์ป่าชุมชน ทำให้ เซ็นทรัล ทำ ได้เห็นถึงความตั้งใจดีและศักยภาพที่เข้มแข็งของชุมชน จึงผนึกกำลังกับสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.สกลนคร เริ่มต้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอย้อมครามของชุมชนบ้านกุดจิกให้โดดเด่นเป็นที่รู้จัก โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างชุมชนและหน่วยงานเพื่อหาจุดเด่นและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดย เซ็นทรัล ทำ ได้ร่วมสนับสนุนองค์ความรู้  การพัฒนาคุณภาพ การแปรรูปเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการขายและการตลาด พร้อมเปิดโอกาสเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ good goods ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่าล้านบาทในปี 2566

เพื่อเป็นการยกระดับชุมชนบ้านกุดจิกให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เซ็นทรัล ทำ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร ในการพัฒนาผ้าย้อมครามและการย้อมสีธรรมชาติให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้และการท่องเที่ยวชุมชน โดยโครงการเน้นการดำเนินงานใน 3 ด้านหลัก ดังนี้:

• โครงการ ป่าให้สี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ผืนป่า สู่ผืนผ้า คือ แนวคิดในการปรับปรุงป่าชุมชนให้เป็นพื้นที่รวมพันธุ์ไม้ให้สีย้อมผ้าของชุมชน บนพื้นที่ 18 ไร่ โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ได้สำรวจและรวบรวมข้อมูลพันธุ์ไม้ลักษณะทางพฤกษศาสตร์เก็บไว้เป็นฐานข้อมูล และเก็บตัวอย่างใบไม้ ดอกไม้ เปลือกไม้ นำมาทดสอบการให้สีธรรมชาติ เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อไปในอนาคต โดยพันธุ์ไม้ที่พบในป่ามีไม้ยืนต้นหลากหลายพันธุ์มากกว่า 318 ต้น ได้แก่ กระบก, มะพอก, มะขาม, ยางเหียง, หว้า, ยางพลวง, ราชพฤกษ์, ปีบ, มะค่าแต้, ตะคร้อ, เหมือดแอ, มะม่วงกะสอ, ข่อย, แดง, ประดู่แดง, หมี่, เพกา, จิก, มะตูม, สะเดา, ราชพฤกษ์, มะหวด, ตะแบกนา, หนามแท่ง, เสลา, กว้าว, พลับพลา,  นมน้อย, มะหาด, มะกอก, ส้มเสียว,  ส้มกบ, ส้มชิ้น, มะเกลือ, ยอป่า และโมกหลวง เป็นต้น ซึ่งการศึกษาข้อมูลพันธุ์ไม้นี้ นอกจากชุมชนจะได้รู้จักพันธุ์ไม้ของตัวเองแล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงการอนุรักษ์ป่าชุมชนและการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบของชุมชนอีกด้วย 

• การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นการคัดเลือกพันธุ์ไม้ในพื้นที่ป่าให้สีนำมาทดสอบการให้สีย้อมผ้า ผ่านกระบวนการกรรมวิธีที่แตกต่างกัน เพื่อให้สีย้อมผ้ามีเฉดสีที่หลากหลายและมีคุณภาพมากที่สุด ซึ่งจากการทดสอบนำสีย้อมผ้าจากพันธุ์ไม้ในป่าให้สี ได้ 8 เฉดสี อาทิ เพกา ให้สีเหลือง, มะหาด ให้สีชมพู, ฝาง ให้สีแดง, ไผ่กิมซุง ให้สีเขียว, ยอปา ให้สีส้ม, คราม ให้สีน้ำเงิน, สัก ให้สีม่วง และโคลงเคลงป่า ให้สีน้ำตาล  โดยการนำใบ เปลือก หรือราก มาทำเป็นสีย้อมผ้า ซึ่งแต่ละครั้งอาจให้สีไม่สม่ำเสมอ ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการควบคุมคุณภาพและสีสันของผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถผลิตผ้าย้อมครามที่มีสีเสถียรสม่ำเสมอได้ในจำนวนมาก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้โปรเจ็คพิเศษระหว่าง good goods x Moo Bangkok เกิดขึ้นได้จริง 

• การท่องเที่ยวชุมชน เป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ชุมชนในด้านต่างๆ เพื่อรองรับผู้สนใจและนักท่องเที่ยวที่มาเรียนรู้การทอผ้าย้อมครามหรือท่องเที่ยวในชุมชน ได้แก่ การจัดอาหารพื้นถิ่นสำรับภูไทบ้านกุดจิก ขนมและเครื่องดื่มจากข้าวฮาง การต้อนรับดูแลนักท่องเที่ยว กิจกรรม workshop ย้อมผ้าสีธรรมชาติจากป่าให้สี การจัดแพ็กเกจและแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน รวมถึงการบริหารจัดการขยะในชุมชนด้วย

ทางด้าน นายพลพัฒน์ อัศวะประภา ผู้ก่อตั้งอาซาว่า กรุ๊ป ได้มองเห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาท้องถิ่น   จ.สกลนคร และยินดีร่วมมือกับ good goods จัดทำคอลเลกชันพิเศษ ร่วมกับ MOO Bangkok ในเครืออาซาว่า กรุ๊ป เพื่อสร้างสรรค์สินค้าใหม่ร่วมกับ 3 ชุมชน ได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าครองวิถี และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติบ้านนางาม ความร่วมมือนี้ได้ผสมผสานเอกลักษณ์ของผ้าย้อมครามแบบดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยในสไตล์ Urban ready to wear ภายใต้คอนเซ็ปต์ Eternal Sunshine ที่สะท้อนความสดใส รอยยิ้ม และพลังบวกจากความสุขที่เรียบง่ายในชีวิต โดยดึงเอาเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาถ่ายทอดผ่านเสื้อผ้า สื่อถึงบรรยากาศอบอุ่นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กัน  

ความพิเศษของคอลเลกชันนี้คือการสนับสนุนงานฝีมือไทยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยทุกเทคนิคที่ใช้ล้วนเป็นกระบวนการธรรมชาติ ทั้งการย้อมสี การเข็นฝ้ายด้วยมือ และการมัดย้อมเส้นใย นอกจากนี้ยังมีการนำผ้า zero waste หรือเศษผ้าที่ถูกทอมาใช้เป็นดีเทลในชุดต่างๆ ซึ่งปรากฏในแฟชั่นไอเทมที่สวมใส่ง่าย เช่น เสื้อฮาวาย กางเกงขาสั้น และแจ็กเกต

คอลเลกชันนี้ยังได้สอดแทรกความเป็นไทยเข้าไปในดีไซน์ ผ่านลวดลายเพสลีย์ที่พิมพ์บนผ้าช้าง ซึ่งเป็นคีย์ลุคหลักของคอลเลกชัน รวมถึงเสื้อยืดจากผ้ามัดย้อมที่มีการแต่งแต้มสีสันให้เข้ากับความสนุกสนานแบบไทยๆ โดยมุ่งยกระดับดีไซน์สินค้าไทยให้มีความงามร่วมสมัย โดยเน้นออกแบบให้เป็น unisex ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย พร้อมกับการสืบสานและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ทั้งยังสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสู่ระดับสากล รายได้ทั้งหมดจากคอลเลกชันนี้จะถูกนำกลับไปพัฒนาชุมชน ภายใต้โครงการ เซ็นทรัล ทำ ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ

ช้อปคอลเลกชัน good goods x MOO Bangkok ได้แล้ววันนี้ที่ ร้าน good goods ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์โซน Hug Thai, ร้ าน good goods ที่ จริงใจมาร์เก็ต จ.เชียงใหม่ และชั้น G เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า โซน Hug Thai จ.ภูเก็ต หรือช่องทางออนไลน์ที่ Line Official: @aboutgoodgoods  หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ centraltham.com/natural-dyes-kudjik

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสินค้าภายใต้แบรนด์ประกอบด้วยสินค้าแฟชั่น ออกแบบโดย หมู อาทิ เสื้อ กางเกง กระเป๋า และหมวก บริษัทมีแผนที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดมากขึ้น อาทิ กำไร นอกจากนี้ยังจะมีสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ ขนมขบเคี้ยวจากมันม่วง เป็นต้น

นายพิชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายตบสดไปยังตลาดต่างประเทศในปีหน้า โดยประเทศแรกที่จะเข้าไปขยายตลาด คือประเทศจีน และมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดเกาหลี และญี่ปุ่นด้วย ขณะเดียวกันยังจะร่วมมือกับชุมชนในหลายจังหวัดมากขึ้น อาทิ เชียงใหม่ อยุธยา เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 400 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 100 เปอร์เซ็นต์โตยในไปที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท

#goodgoods #MOOBangkok #เซ็นทรัลทำ #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share