Whoscall ผนึกกำลังตำรวจไซเบอร์ ส่งแคมเปญปกป้องแม่-ลูกจากมิจฉาชีพทางโทรศัพท์ แจกโค้ด Whoscall พรีเมียม 500,000 โค้ด ฟรี! ถึง 31 สิงหาคม 2567

กองบรรณาธิการ

Gogolook ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน Whoscall แอพพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก และป้องกันสแปมสำหรับสมาร์ทโฟน ร่วมกับกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จึงถือโอกาสช่วงเทศกาลวันแม่ส่งวิดีโอแคมเปญ #ไม่มีใครตัดสายเก่งเท่าแม่คุณ ชวนลูกทุกคนมอบของขวัญสุดล้ำค่าเพื่อปกป้องแม่ ด้วยการโหลดแอพฯ Whoscall พร้อมแจกโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก ฟรี! 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567

จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ล่าสุดของ บช.สอท. ระหว่างเดือน มีนาคม 2565 – มิถุนายน 2567 พบว่า คนไทยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมากกว่า 575,500 คดี มูลค่าความเสียหายสะสมกว่า 65,715 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยมูลค่าความเสียหายวันละ 80 ล้านบาท โดย 64 เปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้นกับกลุ่มเพศหญิงวัยทำงาน จนถึงวัยสูงอายุ ตั้งแต่อายุ 30 – 60 ปีขึ้นไป สูงถึงกว่า 248,800 คดี ดังนั้น Gogolook ในฐานะบริษัทที่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการป้องกันกลลวงจากมิจฉาชีพ พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนหันมาปกปัองคนที่คุณรักจากภัยคุกคามจากการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ

นางสาว มนประภา รัตนกนกพร หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอพพลิเคชัน Whoscall กล่าวว่า การปกป้อง ‘แม่ หรือผู้สูงอายุจากมิจฉาชีพเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ในขณะที่ทุกคนสามารถปกป้องมิจฉาชีพได้ด้วยตนเอง แม่ ของอาจรู้ไม่เท่าทัน โดยจากการสำรวจของบริษัทเมื่อไม่นานมานี้ พบว่า การมีเงินเก็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเงินออม เงินเกษียณ หรือ เงินบำนาญ และความไม่ชำนาญในการใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุมักตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ซึ่งปัจจุบัน Whoscall เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชันที่ไทยนิยมใช้มากที่สุดสำหรับการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ ดังนั้นในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ จึงได้ร่วมมือกับ บช.สอท. ออกวิดีโอแคมเปญ เพื่อร่วมรณรงค์การเฝ้าระวังภัยจากมิจฉาชีพ พร้อมจัดกิจกรรมแจกโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก ฟรี เป็นของขวัญสุดล้ำค่าให้แก่คนที่เรารัก

วิดีโอแคมเปญภายใต้คอนเซปต์ #ไม่มีใครตัดสายเก่งเท่าแม่คุณ ที่จะปล่อยออกมาในช่วงเทศกาลวันแม่นี้ เป็นการนำเสนอไอเดียการสื่อสารผ่านหนังโฆษณาที่มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้ใช้จากการรับสายและข้อความที่ไม่พึงประสงค์ โดยแคมเปญนี้ได้มีการหยิบยกเคสตัวอย่างจริง ซึ่งทางแบรนด์ได้มีการตรวจสอบและขออนุญาตจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายแล้ว โดยเคสที่หยิบยกขึ้นมาเป็นเคสตัวอย่างของคุณแม่หลายท่านที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเงิน ตามมาด้วยความสูญเสีย มหาศาลทั้งทางทรัพย์สินและสภาพจิตใจ ที่มาพร้อมวลีเด็ด อย่าให้ค่าน้ำนมกลายเป็นค่าเสียหาย เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ลูกๆ ตระหนักถึงปัญหา และอยากถือโอกาสเชิญชวนลูกทุกคนลุกขึ้นมาร่วมมือกันปกป้องคุณแม่จากมิจฉาชีพด้วยการโหลดแอปพลิเคชัน Whoscall และแจ้งเบาะแสของการหลอกลวงกับสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441

พ.ต.ท. ดร.ปุริมพัฒน์ ธนาพันธ์สิริ รอง ผกก.4 บก.สอท.1 ผู้แทนหน่วยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า จากข่าวมิจฉาชีพที่ได้เห็นกันมาตลอด ทำให้คนไทยเริ่มตื่นตัวและระวังภัยจากมิจฉาชีพที่เข้ามาในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่อัพสกิลการเอาตัวรอด และรู้วิธีการต่อกรกับมิจฉาชีพในคราบคอลเซ็นเตอร์หลากหลายรูปแบบได้ แต่ไม่ใช่กับคนรุ่นแม่หรือผู้สูงอายุ จากสถิติล่าสุดของ บช.สอท. สามารถสรุปได้ว่า กลุ่มผู้หญิงวัยทำงานไปจนถึงผู้สูงวัย หรือบรรดาแม่ เป็นเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพ โดยคดีการหลอกลวงทางออนไลน์จากมิจฉาชีพที่สร้างมูลค่าความเสียหายให้กับประเทศไทยมากที่สุด คือ คดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 7 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมถึงคดีที่อยู่ในระบบออฟไลน์ หรือผู้ที่ไม่ได้มาแจ้งความ ดังนั้นความร่วมมือกับ Whoscall ถือเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม ในจังหวะที่ สถานการณ์มีความรุนแรง และมูลค่าความเสียหายสะสมมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เราพร้อมร่วมมือกับ Whoscall เพื่อปกป้องชุมชนจากภัยคุกคาม และป้องกันกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางมากที่สุด

ดังนั้นพิเศษ! ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ Whoscall จัดกิจกรรมแจกโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก เป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้ทั้งแม่และลูก ฟรี! จำนวน 500,000 โค้ด รวมมูลค่ากว่า 29 ล้านบาท

#Whocall #ThaiSMEs 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share