กรุงไทย จับมือ กระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าแก้หนี้ข้าราชการในสังกัด ผ่าน สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน

กองบรรณาธิการ

ธนาคารกรุงไทย ลงนามความร่วมมือกับ กระทรวงศึกษาธิการ เดินหน้าแก้หนี้ข้าราชการและบุคลากรในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยโครงการ สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ตลอดอายุสัญญา ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดถึงอายุ 80 ปี เพื่อลดภาระการเงิน เสริมสภาพคล่อง ให้มีเงินพอใช้ดำรงชีพ  ปิดจบหนี้เรื้อรัง

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ธนาคารกรุงไทย ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ  ร่วมกับ 12 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาหนี้ข้าราชการและบุคลากรในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ  โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีลงนาม

นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม ผู้บริหารสายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงความเดือดร้อนของข้าราชการ จากปัญหาหนี้สิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพ  โดยเฉพาะข้าราชการกลุ่มเปราะบางที่มีภาระหนี้สูงและเรื้อรัง เงินเดือนถูกหักเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด  มีเหลือใช้ในแต่ละเดือนไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ  ทำให้ต้องไปกู้เพิ่ม เพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  จนมีหนี้อยู่หลายแห่ง กระจัดกระจาย และอยู่ในวงจรหนี้ไม่จบ ไม่สิ้น

ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้ข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ตามนโยบายของรัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ( เครดิตบูโร) ในการแก้ไขปัญหาหนี้แบบองค์รวมอย่างเป็นระบบ  ผ่านโครงการ สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน เพิ่มเติมจากมาตรการความช่วยเหลือข้าราชการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยเร่งพัฒนารูปแบบและวิธีการต่างๆ  เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัด ปัญหาและอุปสรรคในเชิงระบบ ทั้งด้านการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นในการประเมินสภาพและสถานะของหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือข้าราชการได้อย่างตรงจุด ทันการณ์ และเพิ่มความสามารถในการดำรงชีพของข้าราชการอย่างเหมาะสม

ล่าสุด ธนาคารได้ขยายความร่วมมือการแก้ไขหนี้ข้าราชการกับกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านโครงการ สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน สำหรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับข้าราชการที่มีสินเชื่อกรุงไทยวงเงินฉุกเฉินและ/หรือสินเชื่ออเนกประสงค์ข้าราชการ (MOU) และเป็นข้าราชการที่ในอนาคตจะมีสิทธิได้รับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดจากกรมบัญชีกลางเมื่อเกษียณอายุ และมีสิทธิจะได้รับบำนาญรายเดือนหลังเกษียณอายุ โดยสามารถรวมหนี้รายย่อยทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ จากทั้งธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินอื่นๆ  โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งสินเชื่อบ้าน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) และสินเชื่อบ้านแลกเงิน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา (อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 4.49 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญาสูงสุด 40 ปี ผ่อนชำระ 4,700 บาท/เดือน) โดยได้รับยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน 

2. สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา  เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

จุดเด่นโครงการ  

● สามารถร่วมใช้บริการทางการเงินกับสหกรณ์ที่ข้าราชการเป็นสมาชิก (Co-Exist) โดยที่ให้มีเงินเหลือใช้เพื่อดำรงชีพไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และยังสามารถหมดหนี้ได้หลังเกษียณ

● อัตราดอกเบี้ยต่ำ “คงที่” ตลอดอายุสัญญา ไม่ผันผวนไปตามทิศทางของดอกเบี้ย วางแผนการบริหารหนี้ระยะยาวและสภาพคล่องได้ดียิ่งขึ้น

● ขยายระยะเวลาคืนหนี้ และอายุผู้กู้ ให้สามารถชำระได้สูงสุดถึงอายุ 80 ปี จากเดิมกำหนดอายุถึง 60 ปี  เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับข้าราชการ

● สร้างวินัยการเงิน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน ในระหว่างเข้าร่วมมาตรการฯ ลูกหนี้จะเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ไม่ก่อหนี้เพิ่ม  โดยธนาคารร่วมมือกับเครดิตบูโร ในการแจ้งเตือน หากลูกหนี้มีการก่อหนี้เพิ่มและร่วมมือกับสหกรณ์ในการแชร์ข้อมูลสถานะหนี้ โดยได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ( iLock Bureau)

● โปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงิน เป็นเครื่องมือตรวจสุขภาพทางการเงินออนไลน์ที่จะช่วยให้ทราบสถานะทางการเงินเพื่อช่วยวางแผนเริ่มต้นจัดการหนี้ได้ง่ายๆผ่าน https://krungthai.com/link/รวมหนี้ยั่งยืน 

ธนาคารกรุงไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน  กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว ตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยคาดหวังว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้ข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการหลุดพ้นวงจรหนี้ ดำรงชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน 

#กรุงไทย #กระทรวงศึกษาธิการ #แก้หนี้ข้าราชการ #สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน #ThaiSMEs 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share