กองบรรณาธิการ
บริษัท เอ็นทีที จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ประกาศบุกตลาดการให้บริการคลาวด์เต็มสูบ รองรับการทรานส์ฟอร์มองค์กรธุรกิจเต็มรูปแบบ พร้อมเสริมทัพการให้บริการดิจิทัลโซลูชั่น (Digital Solution) การบริหารจัดการด้านไอซีที (Managed Service) และการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ (Intelligent Cybersecurity) พร้อมเปิดตัว Client Experience Center โชว์นวัตกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าและเชื่อมต่อการนำเสนอระบบการทำงานของเอ็นทีทีได้จากทั่วทุกมุมโลกอย่างไรขีดจำกัด
สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ตั้งบริษัทเอ็นทีที เมียนม่าร์ เพื่อขยายฐานตลาดในประเทศพม่า ที่มีศักยภาพการเติบโตในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากประเทศเมียนม่าร์อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมีโอกาสที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะรุกตลาดประเทศเขมรมากยิ่งขึ้นเช่นกัน เพื่รองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น และเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมากในอนาคต สำหรับตลาดในประเทศลาวยังมีขนาดเล็ก บริษัทฯขะใช้ทีมงานจากประเทศไทยในการให้คำปรึกษาและให้บริการในตลาดลาว เขมรและเมียนม่าร์
นอกจากนี้ในส่วนของตลาดประเทศไทยบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมเพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรในหลากหลายมิติ เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มเมชั่นองค์กรเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“เรามองว่าจากนี้ไปการใช้คลาวด์ในประเทศไทยจะเติบโตสูงขึ้น และคาดว่ามูลค่าตลาดรวมของคลาวด์ในประเทศไทยจะโตอย่างต่อเนื่อง โดยการให้บริการคลาวด์ยังคงเป็นเรือธงหลักของเรา นอกจากนี้เอ็นทีที ได้เตรียมการให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชั่น และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มขององค์กรอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยการบริการ Managed Service เพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านไอซีทีในองค์กรเพื่อให้เหมาะกับการดำเนินงานและช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมและบริการด้านรักษาความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับโลก ทำให้ลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมและองค์กรธุรกิจมั่นใจได้ถึงศักยภาพที่เราพร้อมสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบเพื่อทรานส์ฟอร์มเมชั่นองค์กรอย่างแท้จริง”สุทัศน์ กล่าวและว่า เอ็นทีที
ได้รวบรวมนวัตกรรมพร้อมการให้บริการอย่างครบวงจรในทุกด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอซีที การเชื่อมต่อเครือข่ายจากทั่วโลก และ นำระบบ SD-WAN มาผสานการทำงานกับศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และเชื่อมต่อบนระบบคลาวด์ของเอ็นทีทีในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยทางข้อมูลและการเชื่อมต่อที่สะดวกและรวดเร็ว
ในด้านระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์บริษัทฯสามารถช่วยให้ลูกค้าของได้รับความปลอดภัยด้วยบริการ secure by design โดยได้รวมระบบรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัยรวมถึงได้รับข้อมูลเชิงลึกในการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีเพื่อการนำเสนอบริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบบูรณาการและช่วยลูกค้าในการป้องกัน คาดการณ์ และตรวจจับพร้อมตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อรองรับด้านการจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ
ทั้งนี้เอ็นทีทีได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการสนับสนุนและช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีโดยการจัดหาโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีเฉพาะทางเพื่อขยายธุรกิจให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับบริการที่เอ็นทีที ให้บริการประกอบด้วย 6 รูปแบบประกอบด้วย
1. Intelligent Digital Transformation การเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นด้วยรูปแบบอัจฉริยะ
2. Intelligent Customer Experience สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าด้วยรูปแบบอัจฉริยะ
3. Intelligent Workplace สำนักงานอัจฉริยะ
4. Intelligent Data Center and Hybrid Cloud ศูนย์ข้อมูลและไฮบริดคลาวด์อัจฉริยะ
5. Intelligent Networking เครือข่ายอัจฉริยะ
6. Intelligent Cybersecurity ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ
โดยการให้บริการดังกล่าวมาผสมผสานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้กับลูกค้า ด้วยการนำนวัตกรรมด้านIntelligent Digital Transform เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพด้วย
พร้อมกันนี้ เอ็นทีที ได้เปิดตัวศูนย์ Client Experience Center สำหรับโชว์นวัตกรรม พร้อมสาธิตระบบการทำงานให้กับลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรม อบรม สัมมนา และให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ของเอ็นทีที ได้แก่ นวัตกรรมและโซลูชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน เช่น บริการคลาวด์ และ Solution Insight สำหรับการวิเคราะห์การทำงานของระบบคราวด์เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด, ระบบคอนเทคเซ็นเตอร์บนคลาวด์ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของเอ็นทีที (NTT Security Operation Center), บริการบริหารจัดการและการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านไอซีทีอัจฉริยะอีกด้วย และมีการจัดแสดงนวัตกรรมเพื่ออนาคต เช่น เทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ, เทคโนโลยีดิจิทัลในการแข่งขันจักรยาน Tour de France, ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ RPA, คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้และสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ Realwear, COTOHA ระบบการแปลภาษาอัจฉริยะ เป็นต้น