กองบรรณาธิการ
นายเซยุน คิม ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ซัมซุงมุ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence หรือ AI) มาสู่การดำเนินชีวิตที่มีความอัจฉริยะมากขึ้น (Smarter living) ผ่านกลยุทธ์ AI for All ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่เชื่อมต่อใน 3 ส่วนประกอบด้วย
AI for Society เอไอที่มีการเชื่อมต่อสังคม พัฒนาสินค้าที่มี AI ที่มีประสิทธิภาพช่วยประหยัดพลังงานและการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
AI for Experience การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับไลสไตล์ของผู้บริโภคและมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน
AI for Device เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของซัมซุงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI เพื่อทำให้การใช้งานง่าย สะดวก ประหยัดและมีประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากขึ้น
ทั้งนี้ซัมซุงมีเป้าหมายที่จะนำสินค้าที่มาพร้อมกับ AI ออกสู่ตลาดไทย 50 เปอร์เซ็นต์ใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีการผลิตสินค้าที่มาพร้อมกับ เทคโนโลยี AI ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
“ซัมซุงตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ AI-Product เป็น 50% เปลี่ยนบ้านคนไทยให้เป็น AI Home ภายใน 3 ปี พร้อมจัดเต็มไลน์อัพและฟีเจอร์ที่มี AI ให้คนไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมและชีวิตที่ดีขึ้น” นายเซยุน กล่าว
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของซัมซุงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI คือ สมาร์ทโฟน Galaxy S24 ซึ่งได้รับการตอบรับจากการพรีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy S2 Series เป็นการพีออร์เดอร์ที่เป็น อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ โอเชียเนีย
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของซัมซุง มีแนวทางในการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย AI CE ที่เน้นการส่งมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น
ด้านการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ CE ในประเทศไทยปี 2567 นี้ ซัมซุงมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับ AI เข้าสู่ตลาดประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วย เครื่องซักผ้า 70 เปอร์เซ็นต์ ทีวีมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ และแอร์ มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาเทรนด์การใช้แอพพลิเคชันสมาร์ทโฮมของซัมซุง โดยมีการใช้บานอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดดาวน์โหลดการใช้งาน SmartThings 3.2 ล้านคนในประเทศไทย
จากตัวเลขของเว็บไซต์ Zippia พบว่า AI เป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะมาตอบโจทย์การทำธุรกิจ โดย 91.5 ของธุรกิจชั้นนำ มองว่าจะใช้เงินในการพัฒนา AI เพื่อรองรับการทำธุรกิจ 64 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทมองว่า การใช้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และมูลค่าของตลาด AI ทั่วโลกจะอยู่ที่ประมาณ 407 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2570
ในส่วนของประเทศไทยนั้น พบว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน 86 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคบอกว่า AI ทำให้ประสบการณ์การซื้อของเปลี่ยนแปลงไป และ 99 เปอร์เซ็นต์ ของคนทำงานเคยใช้ Generative AI ทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคนไทยเปิดรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีทัศนคติเชิงบวกกับ AI มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดย 80 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ 75 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า AI ให้ประสบการณ์เฉพาะบุคคลและ 51 เปอร์เซ็นต์มีความสนใจ แอพพลิเคชันสมาร์ทโฮม
นายเซยุน กล่าวต่อว่า การพัฒนา AI ของซัมซุงมุ่งเน้นในสิ่งที่มีความสำคัญต่อผู้คนในแต่ละวันมากที่สุด ซัมซุงยังสร้างความร่วมมือแบบเปิดกว้างกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและทั่วโลกกว่า 400 แบรนด์สร้างสรรค์แอพพลิเคชัน AI ที่ใช้ได้จริงสำหรับทุกๆ คน
สำหรับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซัมซุงได้ผสานนวัตกรรม AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มจอภาพ (AI Screen), เครื่องปรับอากาศ (AI Cooling), ตู้เย็น (AI Family Hub), เครื่องซักผ้า (AI Wash) และเครื่องดูดฝุ่น (AI-Powered Cleaning)
“กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2567 ซัมซุงตั้งเป้ายกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยด้วยเทคโนโลยี AI โดยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจะผสานการทำงานของ AI อีกทั้งสานต่อจุดยืนสร้างนวัตกรรมควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและบริหารการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรม AI Energy Mode ที่ประหยัดทั้งพลังงานและค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคบริหารจัดการไฟฟ้าได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยรักษาโลก ช่วยตัดค่าไฟได้สูงสุด 70 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเครื่องซัก-อบผ้า, 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทีวี, 20 เปอร์เซ็นต์สำหรับเครื่องปรับอากาศและ 7 เปอร์เซ็นต์สำหรับตู้เย็น” นายเซยุน กล่าว
ในปีที่ผ่านมา ทีวีพรีเมียมใประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้บริโภคยังคงให้การตอบรับที่ดีกับทีวีจอขนาดใหญ่ โดยซัมซุงยังคงเป็นผู้นำครองอันดับหนึ่งในกลุ่มทีวีสัดส่วนหน้าจอตั้งแต่ 75 นิ้วขึ้นไปและทีวีพรีเมียม นอกจากนี้ระดับโลก ซัมซุงยังคงสร้างสถิติใหม่ของความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องด้วยการครองอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมทีวีติดต่อกัน 18 ปี
ซัมซุงผสาน AI ไว้ในผลิตภัณฑ์จอภาพตั้งแต่ในระดับฮาร์ดแวร์ คุณภาพ การเข้าถึง และความปลอดภัย เพื่อเป็นการพาเข้าสู่ยุค AI TV เต็มรูปแบบ ในปี 2567 ซัมซุงจะส่งผลิตภัณฑ์ทีวีรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดที่จะมาช่วยอัปเกรดทีวีเครื่องใหม่ อาทิ Neo QLED 8K สำหรับ AI TV ผู้คนทุกกลุ่มจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น และใช้งานง่ายยิ่งกว่าเดิม AI TV จะช่วยยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ซัมซุงเชื่อในศักยภาพของ AI ที่จะสามารถปลดล็อกประสบการณ์ โอกาส และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อทุกคน AI ไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับซัมซุงเพราะซัมซุงผสานการเชื่อมต่ออัจฉริยะไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษแล้ว สิ่งที่ซัมซุงมุ่งเน้นเป็นหลักอยู่เสมอมาคือการใช้ AI เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ผู้ใช้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างทั่วถึงในทุกช่องทาง” นายเซยุน กล่าว
#ซัมซุง #AI #ThaiSMEs
