กองบรรณาธิการ
จากตัวเลขของมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า สถิติของเด็กแรกเกิดทุก 100 คน จะมีเด็กที่เป็นโรคหัวใจ 1 คน ประเทศไทยมีเด็กที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิดประมาณ 8,000 คน และเด็ก 70-80 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นโรคหัวใจโดยกำเนิด มีอาการ ตัวเขียว ดูดนมช้า ร่างกายไม่เจริญเติบโตช่วยได้คือ พบกุมารแพทย์ตามนัด ยังมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือในการเข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจเนื่องจากครอบครัวไม่มีความพร้อมประมาณ 3,500 คนต่อปี เด็กบางคนที่ไม่ได้รับโอกาสอาจจะต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และการรักษาเด็กที่เป็นโรคหัวใจจะทำได้ 2 วิธี คือ การผ่าตัด และการทำสายสวน โดยค่าผ่าตัดจะมีค่าใช้จ่ายที่ 100,000-250,000 บาทต่อราย
นับเป็นครั้งแรกที่เซ็นทรัล รีเทล จับมือครูปาน สมนึก คลังนอก เปิดตัวอาร์ตทอยลิมิเต็ด อิดิชันเพื่อสมทบทุนให้มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ผ่านแคมเปญ “Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบ” คาดสามารถระดมเงิน 2 ล้านบาทช่วยเหลือเด็กโรคหัวใจประมาณ 80 คน
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล ยึดมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจ CRC Care มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่มิติ Care for the Community ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย รวมถึงสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ด้วยการต่อยอดกลยุทธ์ Equity Marketing ที่ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 บนคอนเซ็ปต์ Happiness Forward เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนไทยและเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่สังคม โดยในปีนี้ได้เปิดตัวแคมเปญ Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบโดยโฟกัสไปที่การช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 8,000 คนต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีผู้ป่วยเด็กที่ขาดแคลนอีกจำนวนมาก โดยในแคมเปญนี้เซ็นทรัลได้ร่วมกับ ครูปาน สมนึก คลังนอก ศิลปินวาดภาพประกอบชื่อดัง มาร่วมงานเป็นครั้งแรกในการออกแบบอาร์ตทอยและเสื้อยืดคอลเลคชันน้อง Hi! ใจ นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังได้จัดทำไวรัลคลิปที่บอกเล่าเรื่องราวการส่งต่อความสุขของน้อง Hi! ใจ ที่เป็นตัวแทนของเด็กที่เคยได้รับการรักษาจากภาวะหัวใจผิดปกติจนหายดี และสามารถกลับมาส่งต่อความรัก ความสุข และความสดใสให้กับผู้คนรอบข้างได้อีกครั้ง ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล พร้อมเป็นสื่อกลางในการเชิญชวนคนไทยมาร่วมส่งต่อความสุขครั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนและซื้ออาร์ตทอยและเสื้อยืด Hi! ใจ โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจให้มีอนาคตที่สดใสและเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของสังคมต่อไป
“เซ็นทรัล รีเทล ทำแคมเปญ CSR มาตลอด 4 ปี เชื่อว่าการส่งต่อความสุขจะได้ความสุขยิ่งกว่า สำหรับ CSR ในปีนี้จะเป็นการช่วยน้องๆโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด อยากให้ใจดวงใหม่สำหรับน้องที่ได้รับการผ่าตัด จะสามารถช่วยลดความเลื่อมล่ำทางสังคม ขอเชิญทุกคนร่วมส่งความสุขให้ใจดวงใหม่ ให้เด็กกลับมามีชีวิต”นางสาวปิยวรรณ กล่าว
ครูปาน สมนึก คลังนอก ศิลปินวาดภาพประกอบชื่อดัง ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะที่มีลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบคาแรกเตอร์น้องHi! ใจ ในแคมเปญนี้ กล่าวว่า ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบ ที่จะช่วยเหลือสังคมและผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในการออกแบบน้อง Hi! ใจ ให้มีส่วนหัวเป็นรูปหัวใจ และมีดอกไม้ 4 ดอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข แทน 4 ห้องหัวใจ พร้อมวาดหน้าตาของน้อง Hi! ใจ ให้ดูน่ารัก มีสัดส่วนเหมือนเด็ก ตัวกลมๆ น่าเอ็นดู และมีลักษณะขาสั้นๆ ที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า ส่วนบนหัวของน้อง Hi! ใจ มีนกเกาะอยู่ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ที่สื่อถึง เพื่อน รวมทั้งการออกแบบอาร์ตทอยน้อง Hi! ใจ ทั้ง 4 ดีไซน์นี้จะมีสีสันสดใสที่ต่างกันอย่างชัดเจน สื่อถึงความหลากหลายของผู้คน สะท้อนให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ของแคมเปญนี้ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความสุขให้แก่เด็กๆ ที่เป็นโรคหัวใจ ที่ยังรอคอยความช่วยเหลืออยู่ทั่วประเทศ ขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ เพราะนอกจากจะได้เป็นเจ้าของอาร์ตทอยทั้ง 4 แบบ และเสื้อยืดน่ารักๆ แล้ว ยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย ถือเป็นการส่งต่อความสุข ที่จะยิ่งทำให้มีความสุขมากกว่าเดิม
“นับเป็นอาร์ตทอยลิมิเต็ด คอลเลคชั่นแรกที่ทำและทำเพื่อเด็กโดยนำลายเส้นมาพัฒนาเป็นคาแรกกเตอร์ของอาร์ตทอย” ครูปานกล่าว
ด้าน หมอโอ๊ค นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล คุณพ่อของน้องอลิน ผู้มีประสบการณ์ตรงที่น้องอลินเป็นโรคหัวใจ และตรวจเจอตั้งแต่วันแรกเกิด กล่าวว่า ในฐานะคุณพ่อที่ลูกสาวเคยประสบภาวะโรคลิ้นหัวใจตีบ ที่ตรวจพบตั้งแต่วันแรกเกิด ตนเองต้องดูแลลูกสาวอย่างดีและสังเกตน้องอลินอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก น้องอลินจะสามารถผ่าตัดหัวใจได้ต้องใช้เวลาถึง 1 ปี หากผู้ปกครองมีลูกสามารถสังเกตอาการของเด็กได้ คือ เด็กจะตัวเขียว ไม่ค่อยดูดนม และร่างกายไม่เจริญเติบโต ขอให้ผู้ปกครองรีบพาเด็กไปพบกุมารแพทย์และตรวจร่างกายสม่ำเสมอ เพื่อสามารถช่วยการรักษาได้อย่างทันท่วงที และปัจจุบันน้องอลินหายจากการเป็นโรคหัวใจแล้วเนื่องจากน้องอลินได้รับการรักษาด้วยวิธีบอลลูน
พร้อมกันนี้หมอโอ๊ค ยังได้ร่วมรณรงค์ให้ผู้คนในสังคมไทยได้ตระหนักถึงสถานการณ์ผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจในประเทศไทย โดยเซ็นทรัลมีการวางจำหน่ายคอลเลกชั่นน้อง Hi! ใจ เป็นครั้งแรก ทั้งอาร์ตทอยสุดน่ารักในรูปแบบกล่องสุ่ม 4 ดีไซน์ ที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะแคมเปญนี้ จำนวนจำกัด 3,500 ตัวเท่านั้น โดยประกอบด้วยน้อง Hi! ใจ 3 แบบ 3 สไตล์ในชื่อ Kind, Joy และ Smile ที่เป็นตัวแทนของความสุข ความสดใส จำหน่ายอย่างละ 1,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 3,000 ตัว และพิเศษสุด! กับอาร์ตทอยตัวซีเคร็ท (Secret) ที่ชื่อว่า Love ซึ่งมีสีและดีไซน์ไม่เหมือนใคร จำหน่ายเพียง 500 ตัวเท่านั้น! พร้อมให้ผู้โชคดีได้เป็นเจ้าของ โดยกล่องสุ่มอาร์ตทอยน้อง Hi! ใจ มีจำหน่ายทั้งแบบเดี่ยวในราคาตัวละ 990 บาท และแบบเซ็ต 3 ตัว ในราคาเซ็ตละ 2,690 บาท (จากราคาเต็ม 2,970 บาท) นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืดสีขาวสุดคิ้วท์ที่ปักลายน้อง Hi! ใจ มาจำหน่ายในราคาเพียงตัวละ 490 บาท ให้ได้เลือกซื้ออีกด้วย โดยผู้ที่สนใจร่วมทำความดีกับเซ็นทรัล รีเทล สามารถอุดหนุนอาร์ตทอยและเสื้อยืด Hi! ใจ ได้ที่งาน Hi! ใจ Event ซึ่งจะจัดถึงวันที่ 20 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Beacon และที่ร้าน Pop Mart ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ https://bit.ly/48KB45U หรือสแกน QR Code ด้านล่าง ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นี้เท่านั้น
นางสาวปิยวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณในการจัดทำ CSR เป็นส่วนหนึ่งของงบการตลาดของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มียอดรายได้ประมาณ 235,000 ล้านบาทต่อปี และใช้งบการตลาดประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของยอดรายได้ทั้งหมด และในการทำแคมเปญ Hi!ใจ นี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2 ล้านบาทและสามารถช่วยเหลือเด็กโรคหัวใจประมาณ 80 คน นอกจากนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านยังได้จัดแคมเปญ CSR ในส่วนของคนตาบอด และมอบทุนสนับสนุนเด็กช้างเผือกจากต่างจังหวัด เป็นต้น
“ในการทำ CSR 3 ปีที่ผ่านมาคือประสบความสำเร็จ จะทำเพิ่มขึ้น ความตั้งใจจะยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น” นางสาวปิยวรรณ กล่าว
#เซ็นทรัลรีเทล #ThaiSMEs
