ซัมซุง รุกตลาด B2B เปิดตัว Galaxy Tab Active5 และ Galaxy XCover7 เตรียมเปิดโชว์รูม แสดงสินค้า ตั้งเป้าโต 20%

กองบรรณาธิการ

ซัมซุงบุกตลาดลูกค้าองค์กร (B2B) ด้วย Galaxy for Work ยกระดับการทำงานสู่ทางเลือกที่ดีกว่า จัดเต็มผลิตภัณฑ์ครบไลน์อัพ Galaxy Enterprise Edition และ Galaxy Rugged Series พร้อมเปิดตัวรุ่นใหม่ Galaxy Tab Active5 และ Galaxy XCover7 ย้ำจุดเด่น ปลอดภัย หลากหลาย และทันสมัย มุ่งสร้าง B2B อีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันการทำงานในยุคดิจิทัลก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง องค์กรจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสาร ความเป็นส่วนตัว และข้อมูลความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น ผลการสำรวจจากซัมซุงเผยว่า องค์กรสมัยใหม่จะมีลักษณะ flexible workplace หรือการทำงานที่ยืดหยุ่นโดยไม่จำกัดเรื่องสถานที่เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดย 82% ขององค์กรมีการใช้นโยบายนี้ส่วนอีก 13% กำลังเตรียมใช้นโยบายนี้ในอีกไม่เกิน 1 ปีข้างหน้า  ดังนั้นอุปกรณ์ในการทำงานต้องมีประสิทธิภาพ และช่วยให้การทำงานจากนอกออฟฟิศมีประสิทธิภาพเต็มที่ โดย 89% ของพนักงานให้ความเห็นว่าอุปกรณ์สื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน

“ซัมซุงเข้าใจความต้องการขององค์กรสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ในปีนี้เราจึงเตรียมบุกตลาดลูกค้าองค์กรด้วย Galaxy for Work ที่มีครบครันทั้งดีไวซ์ โซลูชั่นและการบริการที่พัฒนาขึ้นเพื่อลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่ซัมซุงมีไลน์อัพผลิตภัณฑ์ครบทุกระดับตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นแฟลกชิป ทั้ง Galaxy Enterprise Edition ซึ่งเป็นสมาร์ทดีไวซ์ที่เหมาะกับการใช้งานในองค์กรโดยเฉพาะ และ Galaxy Rugged Series ที่เหมาะสำหรับการใช้งานภาคสนามที่มีความสมบุกสมบัน โดยจุดเด่นของซัมซุง คือ มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์กับองค์กรในทุกด้าน อาทิ ด้านความปลอดภัย ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และความทันสมัยที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในองค์กร” นายภาณุพัฒน์ เกษมสุข หัวหน้ากลุ่มธุรกิจองค์กร โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Galaxy Enterprise Edition ประกอบด้วย Galaxy S23 FE EE, Galaxy A15 EE, Galaxy Tab A9 EE, Galaxy Tab S9 FE EE ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนององค์กรในภาคธุรกิจที่หลากหลาย และ Galaxy Rugged Series ประกอบด้วย Galaxy XCover6 PRO, Galaxy Tab Active4 PRO รวมถึงรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ Galaxy XCover7 และ Galaxy Tab Active5 ซึ่งเหมาะกับการทำงานที่มีความท้าทายและความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใดก็สามารถทำงานได้ โดยอุปกรณ์ซีรีส์นี้จะตอบโจทย์ในด้านความทนทาน ความต่อเนื่องในการใช้งาน และความปลอดภัย

จากผลสำรวจพบว่าตลาดของอุปกรณ์ Rugged ทั่วโลกเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2566 มีมูลค่าตลาดราว 4,900 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ โดยจะเติบโตเป็น 6,700  ล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือเติบโตราว 7.8% ในปี 2570 โดยความนิยมใช้งานจะอยู่ที่ธุกิจขนส่ง ภาคอุตสาหกรรมและรีเทลตามลำดับ สำหรับประเทศไทยมีสินค้าอุปกรณ์ Rugged สำหรับธุรกิจองค์กรประมาณ 5% ดังนั้นตลาดจึงมีความต้องการอีกจำนวนมาก

Galaxy Tab Active5 เปิดตัวราคาเริ่มต้น 21,900 บาท สมาร์ทดีไวซ์ที่มีความทนทานสูง เหมาะกับการทำงานในสภาวะที่สมบุกสมบัน มีแบตเตอรี่ความจุถึง 5,050 mAh ที่สามารถเปลี่ยนได้อย่างง่าย และรองรับโหมด No Battery สำหรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่อแบตเตอรี่เสริม มีปากกา S Pen ใช้งานได้หลากหลายสะดวกยิ่งขึ้น Galaxy XCover7 เปิดตัวราคาเริ่มต้น 10,900 บาท สมาร์ทดีไวซ์ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยระบบ Touch sensitivity เพิ่มความไวต่อการตอบสนองของหน้าจอสัมผัส เพื่อให้สามารถใช้งานได้ด้วยถุงมือทำงาน และยังรองรับการสัมผัสเมื่ออุปกรณ์เปียกหรือมีความชื้น และใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus+ ที่ป้องกันจากการสึกกร่อนและการถูกทำลาย โดยรุ่นนี้มีหน้าจอการแสดงผลที่มีความตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้น และมีความละเอียดสูง ช่วยให้หน้าจอชัดเจนมากขึ้นและสะดวกสบายเมื่อทำงานในภาคสนาม และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุถึง 4,050 mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และเมื่อแบตเตอรี่หมดยังสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการชาร์จ

โดยทั้ง Galaxy Tab Active5 และ Galaxy XCover7 ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IP68 สามารถกันน้ำ กันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับ Military certified (MIL-STD-810G) ทั้งผ่านการทดสอบการ Drop test  โดยทนทานถึงระยะการตก 1.5 เมตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานเชื่อมั่นในความทนทานได้ Galaxy Rugged Series ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi 6 ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่อ อัปโหลด และดาวน์โหลดไฟล์งานทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วเมื่อทำงานในภาคสนาม และยังสามารถมั่นใจในความปลอดภัยด้วย Samsung Knox Suite แพลตฟอร์มความปลอดภัยที่ครบวงจรที่สุด ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการอุปกรณ์และปกป้องความปลอดภัยได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ Samsung Knox จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะได้รับการปกป้อง นอกจากนี้ซัมซุงร่วมกับ Android เพื่อรักษาความปลอดภัยในระยะยาว พร้อมติดตามและแก้ไขปัญหาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับการอัปเดตด้านความปลอดภัยสูงสุด 5 ปี และอัปเกรดระบบปฏิบัติการได้ถึง 4 ครั้ง เพื่อให้องค์กรมั่นใจในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราทำ Galaxy for Work กับกลยุทธ์การบุกตลาดลูกค้าองค์กร ซัมซุงมุ่งเน้นการสร้าง B2B อีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืน โดย 1) เพิ่มกลุ่มสินค้าและการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรมากขึ้น มีผลิตภัณฑ์ที่ครบครันทุกไลน์ตั้งแต่สินค้าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นจนถึงรุ่นแฟลกชิป และพัฒนาเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวขึ้น พร้อมการรับประกัน 2 ปี มีการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าสามารถส่งเครื่องเข้าบริการได้ทุกสาขาในประเทศไทย 2) ต่อยอด Samsung ONE ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มช่องทางในเข้าถึงข้อมูลทางเทคนิค รวมทั้งกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ จากทางซัมซุงสำหรับพาร์ทเนอร์และคู่ค้าโดยเฉพาะ 3) ขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่าย และผู้ให้บริการเครือข่าย ในด้านการขายและการตลาด ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 10 ราย และเพิ่มงบประมาณการตลาดมากขึ้น 30 % เพื่อสร้างความเข้าใจของตลาดและเตรียมความพร้อมในการให้บริการลูกค้า” นายภาณุพัฒน์ กล่าวและว่า

ซัมซุงได้มีการพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์ โซลูชัน พร้อมทั้งการให้บริการเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ จากผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ และซัมซุงมั่นใจว่า Galaxy for Work จะสามารถผลักดันธุรกิจสมาร์ทดีไวซ์เพื่อลูกค้าองค์กรให้เติบโตถึง 20% ภายในสิ้นปี 2567

สำหรับองค์กรเป้าหมายที่ซัมซุงจะเข้าไปขยายตลาด ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจรีเทล อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ธนาคาร ธุรกิจการเงิน รวมถึงธุรกิจ โรงพยาบาล (Healthcare) หน่วยงานภาครัฐ และโลจิสติกส์

นายภาณุพัฒน์ กล่าวต่อว่า ภายในปีนี้ ซัมซุงจะมีโชว์รูมที่เซ็นทรัลเวิร์ด และมีการทำโรดโชว์ (Roadshow) ร่วมกับพาร์ทเนอร์และโอเปอเรเตอร์ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตลาดทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมามีการจัดโรดโชว์ที่ขอนแก่น และมีแผนที่จะจัดโรดโชว์ที่ ภูเก็ต หาดใหญ่และเชียงใหม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง ยังจะเปิดการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของซัมซุงด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

“อุปกรณ์ Rugged ของซัมซุง มีจุดเด่นที่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche market) สำหรับงานเฉพาะ มีระบบรักษาความปลอดภัยและมีระยะเวลาการรันตรีที่นานมากขึ้น สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น แผนในปีนี้เราตั้งใจจะเติบโต 20% เป็นอย่างน้อย ถ้าเราเอ็ดดูเคตตลาด ตัว Rugged หรือ Enterprise Edition ภายใน 3 ปีเราเชื่อว่า สินค้าในกลุ่ม B2B นี้ มีโอกาสที่จะดับเบิ้ลจากยอดขาย 2 ปีที่แล้ว” นายภาณุพัฒน์ กล่าว

#ซัมซุง #ThaiSMEs #GalaxyTabActive5 #GalaxyXCover7

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share