ซัมซุง เผยสมาร์ทโฟน Galaxy AI ส่งผลยอดจอง 2 เท่า ไทยขึ้นอันดับ ยอดจอง Top5 ทั่วโลก พร้อมแย่งตลาดคู่แข่ง 25% เตรียมเปิดตัว tablet AI เดือนหน้า

กองบรรณาธิการ

นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์  บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy S24 Series หรือ Galaxy AI ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) หรือ เอไอ เป็นอีกความก้าวหน้าการพัฒนาสมา์ทโฟนของซัมซุง ที่ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจ มีการค้นหาคำว่า เอไอ ในกลูเกิล เสิร์ซมากขึ้น และมีลูกค้าให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่เปิดจองสมาร์ทโฟนหลังจากเปิดตัวในช่วง 2 สัปดาห์แรก ลูกค้ามีการจอง Galaxy S24 Series มียอดพรีออเดอร์ในไทยสูงเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย สูงกว่า Galaxy S23 Series ถึง 200% หรืออยู่ในอันดับ Top 5 ของยอดพรีออร์เดอร์ทั่วโลก และจากยอดจองที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะเป็นลูกค้าที่เป็นลูกค้าของซัมซุงที่มีการเปลี่ยนเครื่องหรือลูกค้าใหม่แล้ว ยังมีลูกค้าจากแบรนด์คู่แข่งที่มาซื้อเครื่องสมาร์ทโฟนของซัมซุงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ โดยดูจากการที่ลูกค้าขอให้มีการเปลี่ยนถ่ายข้อมูลหลังจากที่ซื้อเครื่องใหม่

“เราเปิดตัวสมาร์ทโฟน S24 Series ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน มีการนำเอไอมาใส่ในสมาร์ทโฟน และเอไอ เป็นเทคโนโลยีที่มีคนใช้งานเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก ส่วนหนึ่งที่เห็นคือ หลังจากที่มี ChatGPT ออกมา จะเห็นตัวอื่นตามมา

ตัวเลขเมืองไทยจากกลูเกิล พบว่า การค้นหาข้อมูลหรือการเสิรซ์ผ่านมือถือน้อยลง การซื้อมือถือช้าลง การเปิดตัว Galaxy AI จะเห็นกราฟพุ่งขึ้นมา คนค่อยๆเห็นการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนค่อยๆเห็นการใช้งานจริง (Used case) มากขึ้น” นายสิทธิโชค กล่าวและว่า ซัมซุงมีแผนที่จะเปิดตัวแท็ปเล็ตที่มาพร้อมกับเอไอในไทยในเดือนหน้าเพื่อรองรับ การเติบโตของตลาดเอไอทั่วโลก มีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากโดยมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลกรวมถึงในประเทศไทย โดยการเติบโตของ Generative AI ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2575และในปัจจุบัน Chat GPT มีผู้ใช้มากกว่า 180.5 ล้านคนโดยขนาดตลาด Generative AI ของประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีที่ 23.46% ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 30,000 ล้านบาทภายในปี 2573โดยมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 35% ของผู้บริโภคในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน

นอกจากนี้ 86% ที่ใช้ Generative AI มองว่า เอไอมีความสามารถในการช่วยให้มีประสบการณ์ในการช็อปปิ้งน่าสนใจมากขึ้น และมองว่า เอไอสามารถช่วยเปิดโอกาส และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นอยู่ที่ 99%

“ตอนนี้ Chat GPT มีคนใช้ 180.5 ล้านคนเหมือนเทคโนโลยีทุกตัวเด็กจะใช้ก่อนผู้ใหญ่จะใช้เวลา จะเห็นว่าคนที่ใช้เอไอเป็นเด็กกลุ่ม Gen MZ มีอายุ ระหว่าง 16 ปี-39 ปี เหมือนเทคโนโลยีเอไอ คนที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเด็ก เด็กจะใช้เอไอ มีความคล่องแคล่ว เป็นเรื่องปรกติ สำหรับ Gen baby boomer หรือ Gen X 60% ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มใช้อย่างไร 6 ใน 10 ของคนที่ใช้ เอไอ เค้าคิดว่าเค้าจะเป็นคนที่ใช้เอไอเก่งที่สุดคนนึง ในอนาคตคาดว่าเด็กไทย 40 เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อเอไอและ 60 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เชื่อเอไอ” นายสิทธิโชค กล่าวและว่า ในยุคที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้านเทคโนโลยี AI ได้กลายเป็นหัวข้อสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ไม่เพียงแค่ปฏิวัติวงการเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบันอีกด้วย โดยเทรนด์หลักของ AI ในปี 2024 ที่น่าสนใจโดยแบ่งเป็น 5 เทรนด์ดังนี้

เทรนด์ที่ 1: Generative AI เป็นการใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่ข้อความไปจนถึงดนตรี มีแนวโน้มว่าปี 2569 องค์กรต่างๆ มากกว่า 80% จะนำ Generative AI ในการดำเนินงานซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 5% ในปัจจุบัน

เทรนด์ที่ 2: BYOAI หรือ Shadow AI เป็นแนวโน้มใหม่ในที่ทำงานโดยพนักงานนำ AI ของตนเองเข้ามาใช้ในการทำงาน เกิดจากเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง โดยผลการรายงานจาก Forrester ระบุว่า‘60% ของพนักงานจะใช้ AI มาช่วยทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น’

เทรนด์ที่ 3: แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วย AI เฉพาะบุคคล ในปี 2569 พบว่า 1 ใน 3 ของแอพพลิเคชั่นทั้งหมดจะใช้ AI เพื่อสร้างอินเตอร์เฟชให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้

เทรนด์ที่ 4: AI สำหรับการเขียนโค้ด งานบางอย่างถูกโยนไปให้ AI แก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner ระบุว่า ภายในปี 2571 บริษัทซอฟแวร์จะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ดจาก 3 ใน 4 ของบริษัททั้งหมด ซึ่งในปี 2566 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น

เทรนด์ที่ 5: การค้นหาออนไลน์ด้วย AI ซึ่ง AI ปรับปรุงการค้นหาออนไลน์โดยให้ตรงกับความชอบของผู้ใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรือการค้นหาแบบสนทนาเพื่อให้การตอบโต้กับเครื่องมือการค้นหาได้อย่างธรรมชาติและรวมไปถึงการค้นหาด้วยภาพหรือวิดีโอ

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยซัมซุงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series เพื่อมอบประสบการณ์ AI ที่ดีที่สุดจาก Galaxy AI ซัมซุงได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบไปด้วยชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ทั้งยังยกระดับระบบจัดการความร้อนด้วยVapor Chamber อีกทั้งยังผสานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย AI สำหรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์พร้อมประสบการณ์การใช้งานกล้องสุดอัจฉริยะด้วย ProVisual Engine ที่จะช่วยยกระดับการบันทึกภาพและมาช่วยเสริมความสร้างสรรค์ถึงขีดสุดในทุกขั้นตอน รวมไปถึงการเสริมพลังด้วย AI ที่ดีที่สุด

ซัมซุงได้ทำงานร่วมกับผู้นำทางด้าน AI อย่าง Google และ Microsoft โดยใช้ AI มาพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆเช่น Circle to Search ที่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสลับแอพพลิเคชันซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Galaxy S24 Series นอกจากนี้ซัมซุงยังทำงานร่วมกับ LLM โซลูชั่นที่มอบประสบการณ์การใช้ AI ด้วยฟีเจอร์หลัก เช่น Live Translate, Voice Recorder, Samsung Notes และอื่นๆ โดย LLM จะเปิดให้มีประสบการณ์ AI มากยิ่งขึ้นบน Galaxy S24 Series

#ซัมซุง #GalaxyS24Series #ThaiSMEs

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Follow by Email
Pinterest
LinkedIn
Share