กองบรรณาธิการ
TikTok สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นผ่านการนำพาโอกาสทางธุรกิจอย่างไม่สิ้นสุดเพื่อผู้ประกอบการไทย บนแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงร้านค้าและชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน ผู้ใช้กว่า 325 ล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าใช้ TikTok ทุกเดือน และมีการใช้งานจากภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านรายในทุกเดือน และเมื่อไม่นานมานี้ TikTok ประกาศสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 120,000 ราย โดยลงทุนมูลค่ากว่า 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งจะเป็นทุนสำหรับช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมเสริมทักษะทางดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงธุรกิจรายย่อยในพื้นที่ชนบทและชานเมือง
สำหรับประเทศไทย TikTok เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจจากการสนับสนุนและผลักดันผลิตภัณฑ์ OTOP เข้าสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ให้สอดรับกับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป จึงขยายความพยายามในการเสริมศักยภาพของการทำธุรกิจให้กับธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ผ่านความร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในการส่งเสริมการเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่านการส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัล ในโครงการ #ช้อปได้ทุกถิ่น บน TikTok Shop เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมขับเคลื่อนฐานรากเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ภายในงานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ได้รับเกียรติจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – TikTok Thailand เป็นผู้ลงนาม โดยความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โดยส่งเสริมโอกาสทางการตลาด และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นผ่านการส่งเสริมช่องทางการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบการ OTOP ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย ผ่านโครงการ #ช้อปได้ทุกถิ่น บนแพลตฟอร์ม TikTok Shop ตามระยะเวลาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ (3 ปี)
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – TikTok Thailand กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากพันธสัญญาของ TikTok ที่ประกาศสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 120,000 ราย โดยลงทุนมูลค่ากว่า 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล TikTok มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ชนบทและชานเมือง รวมถึงผู้ประกอบการ OTOP เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจอัจฉริยะผ่านนโยบาย Smart Economy ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของรายได้ของประเทศ และสร้างโอกาสในการพัฒนาอาชีพ รวมถึงการสนับสนุนระบบนิเวศท้องถิ่น ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ศักยภาพของ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มที่ควบรวมคอนเทนต์และคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมสร้างประสบการณ์ Shoppertainment หรือ การช้อปปิ้งผ่านการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิง จะช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ OTOP และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ ผ่าน TikTok Shop โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย ช่วยให้ผู้ประกอบการ OTOP มีความมั่นคงทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการอย่างง่ายดาย พร้อมส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และปลุกจิตวิญญาณผู้ประกอบการธุรกิจในไทย เพื่อส่งเสริมโอกาสให้กับธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทย
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ เสริมสร้างความสามารถและความเข้มแข็งของชุมชน เพิ่มมุ่งสู่ความสำเร็จ ตามวิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ลงทะเบียนจำนวน 99,732 กลุ่ม/ราย และผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 225,276 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทุกเวลา
TikTok จะสานต่อการสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ภายใต้โครงการสนับสนุนท้องถิ่น (Support Local Programme) ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรกว่า 25 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพ องค์ความรู้ และทักษะดิจิทัลสำหรับการทำธุรกิจให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลและต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มความบันเทิงที่ควบรวมคอนเทนต์และคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมที่จะเดินหน้าปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม เปิดโอกาสให้กับครีเอเตอร์ชาวไทย ธุรกิจ และชุมชนท้องถิ่นควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อบนแพลตฟอร์ม
#TikTok #ThaiSMEs #กรมการพัฒนาชุมชน