กองบรรณาธิการ
เสียวหมี่ (Xiaomi) ร่วมกับ Leica Camera AG ประกาศจัดตั้งสถาบัน Xiaomi x Leica Optical Institute โดยการก่อตั้งสถาบันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ด้วยเทคโนโลยีออปติคอลนั้นเป็นหัวใจหลักของสถาบัน ที่นี่จึงเป็นที่รวบรวมเอาวิทยาการสหวิทยาการแบบบูรณาการ (integrated interdisciplinary sciences) รวมไปถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพดิจิทัลและเทคโนโลยี AI เข้าไว้ด้วยกัน
สถาบัน Xiaomi x Leica Optical Institute กำลังสร้างมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรมเพื่อความก้าวหน้าของประสิทธิภาพด้านออปติคอลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จากรากฐานเริ่มต้น โดยเป็นการยกระดับมาตรฐานทั้งด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ โครงการนี้จึงให้ความสำคัญในด้านปรัชญา เทคโนโลยี และประสบการณ์การใช้งานเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ Xiaomi 14 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงด้านการถ่ายภาพด้วยมือถือรุ่นใหม่จะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนามาตรฐานนี้ในทางปฏิบัติ รวมไปถึงประสิทธิภาพด้านออปติคอลที่เหนือชั้นในด้านการถ่ายภาพด้วยมือถือ โดยมีกำหนดการเปิดตัวในเดือนนี้
สถาบัน Xiaomi x Leica Optical Institute จะส่งเสริมนวัตกรรมเชิงลึกในด้านเทคโนโลยีออปติคอลของการถ่ายภาพด้วยมือถืออย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบออปติคอลการถ่ายภาพด้วยมือถือขั้นสูง ทั้งนี้สถาบันมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยทางเทคนิคหลักสี่ประการโดยใช้จุดแข็งหลักของทั้ง Leica และ เสียวหมี่ซึ่งได้แก่ การออกแบบเลนส์ออปติคอลที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษในขนาดกะทัดรัด, การมอบประสิทธิภาพขั้นสูงในการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์, การยึดมั่นในมาตรฐานด้านแสงที่เข้มงวดที่สุดของเลนส์ และการดำเนินการวิจัยและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีออปโตอิเล็กทรอนิกส์ (optoelectronic technology) ที่ล้ำสมัย
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เสียวหมี่และ Leica ได้ลงทุนในทรัพยากรต่างๆ มากมายและรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คน โดย มร.ปีเตอร์ คาร์เบ (Peter Karbe) นักออกแบบด้านออปติคอลระดับตำนานผู้อยู่เบื้องหลังเลนส์รุ่นที่สี่จาก Leica ที่รวมไปถึงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Noctilux และซีรีส์ APO จะรับหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านออปติคอล ในขณะที่ มร.เจิง เฉวจง (Zeng Xuezong) รองประธานอาวุโสของเสียวหมี่กรุ๊ปและประธานแผนกโทรศัพท์มือถือของเสียวหมี่จะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ และ มร.ยี่ หยาน (Yi Yan) หัวหน้าทีมเทคนิคซอฟต์แวร์ของเสียวหมี่กรุ๊ปและ มร.หวัง ฉวนหราน (Wang Xuanran) ผู้จัดการทั่วไปแผนกกล้องของเสียวหมี่จะทำหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการ
ทั้งนี้เสียวหมี่ให้การสนับสนุนทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาที่เข้มแข็งให้กับสถาบัน โดยในปัจจุบัน ห้องปฏิบัติการหลัก 3 แห่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง โดยมุ่งเน้นไปที่ฮาร์ดแวร์ของกล้อง การถ่ายภาพ และการประเมินคุณภาพของภาพตามวัตถุประสงค์และเชิงอัตวิสัย โดยกินพื้นที่กว่า 2,644 ตร.ม. ส่งผลให้เป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการกล้องที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด และเป็นระบบอัตโนมัติที่สุด
มร.วิลเลี่ยม ลู (William Lu) หุ้นส่วนและประธานบริษัทเสียวหมี่กรุ๊ป กล่าวว่า เป็นเวลากว่าร้อยปีที่ Leica มุ่งมั่นที่จะสร้างเลนส์ออปติคอลระดับโลก โดยเป็นการออกแบบทางวิศวกรรมด้านแสงที่ซับซ้อนและการผลิตที่ประณีต เสียวหมี่เชื่อว่า แสงคือรากฐานของภาพ และเป็นแกนหลักและรากฐานสำคัญของ การมอบความลึกให้กับความจริง เราจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายผ่านทางสถาบัน Xiaomi x Leica Optical Institute เพื่อขยายขอบเขตความสามารถด้านออปติคอลของการถ่ายภาพด้วยมือถือและเป็นผู้นำในยุคของการถ่ายภาพด้วยมือถืออย่างต่อเนื่อง
มร.แมทไทอัส ฮาร์ช (Matthias Harsch) ซีอีโอของ Leica Camera AG กล่าวว่า ความร่วมมือกับเสียวหมี่ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการบูรณาการประสบการณ์การถ่ายภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ Leica ให้เข้ากับโลกแห่งการถ่ายภาพบนมือถือ เช่น การใช้เลนส์ออปติคอล Leica Summilux ที่ได้ร่วมกันออกแบบ ทั้งนี้ระบบออปติคัลที่ใช้ใน Xiaomi 14 Ultra เป็นความร่วมมือครั้งล่าสุดของเรา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการเป็นผู้นำการถ่ายภาพออปติคอลที่ใช้เลนส์ Summilux อันยอดเยี่ยมบนมือถือในยุคปัจจุบัน ด้วยชื่อเสียงของเราที่มีมายาวนานกว่าศตวรรษ ในด้านออปติกส์จึงทำให้นวัตกรรมนี้เป็นตำนานของ Leica การก่อตั้งสถาบัน Xiaomi x Leica Optical Institute พร้อมที่จะรวบรวมทีมระดับแนวหน้าจากทั้งสองฝ่ายในสาขาออปติกส์เอาไว้และทุ่มเทร่วมกันในการเป็นผู้นำยุคใหม่ในด้านการถ่ายภาพด้วยมือถือ ผลักดันขอบเขตของการถ่ายภาพด้วยมือถือ และสร้างระบบการถ่ายภาพออปติคอลบนมือถือขั้นสูงที่ปรับให้เหมาะกับยุครสมัย
#เสียวหมี่ #ThaiSMEs #ไลก้า #XiaomixLeicaOpticalInstitute